เราเคยตระหนักถึงเหตุผลนี้กันบ้างไหมว่าทำไมเราถึงขี้เกียจทำอีบาดะฮฺ? อันที่จริงเราสามารถอ่านอัลกุรอานได้วันละ 1 ญุซ แต่ทำไมเราถึงขี้เกียจ,อีกทั้งเรายังสามารถตื่นขึ้นมาละหมาดตะฮญุดแต่ทำไมเราถึงขี้เกียจที่จะทำทั้งๆที่การตื่นขึ้นมาละหมาดนั้นกิดขึ้นเพียงแค่สุดท้ายของคืนเท่านั้น ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? ลองมาหาสาเหตุกัน
1. มะซียัต(สิ่งที่ไม่ดี)
บาปของการทำสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดจากการกระทำของตัวเองทำให้ตัวเรายากที่จะดำเนินการทำอีบาดะฮฺอีกทั้งความคิดและจิตใจก็จะอยู่ไม่เป็นสุข และไม่พบความสุขในการทำอีบาดะฮฺ ทำให้การทำอีบาดะฮฺทำไปอย่างรีบเร่งก็เพื่อให้เสร็จสิ้น
เรามาตรวจสอบสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นจากร่างกายของเราเอง ที่อาจจะเกิดขึ้นกับตาของเราด้วยการมองเห็นบางอย่างที่ฮาราม อย่างเช่น มองร่างของผู้หญิงในส่วนที่เปิดเผย เราชอบการกระทำเช่นนั้นหรือ? ดูสิ่งที่เป็นของคนอื่น เพื่อหยุดการกระทำเช่นนี้ดังนั้นเราต้องขยันทำอีบาดะฮฺ นอกจากนี้หูของเราก็เช่นเดียวกันที่อาจจะทำสิ่งที่ไม่ดีได้ที่อาจเกิดจากการฟังในสิ่งที่ไม่ได้รับอนุญาตจากอัลลอฮฺ(ซบ.) อย่างเช่น ฟังคำสาปแช่ง,คำด่าทอ,และคำพูดที่โกหก อัซตัฆฟีรุลลอฮฺ การกระทำเช่นนี้มันกลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคยไปเสียแล้ว และในความเป็นจริงคงเป็นเรื่องที่ยากมากที่เกิดขึ้นกับคนๆหนึ่งที่น้ำตาของเขาจะหยดลงเมื่อได้ฟังอัลกุรอาน นอกจากนี้ปากของเรานั้นเอง ที่มักจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีได้กับสิ่งที่ทำให้คนอื่นนั้นไม่ดี อย่างเช่น คำพูดที่สกปรกหรือลามกอนาจาร,ทำร้ายความรู้สึกคนอื่น เราจะทำตัวเราให้ขยันทำอีบาดะฮฺได้อย่างไรตราบใดที่ร่างกายของเรายังคงทำสิ่งที่ไม่ดีอยู่และการกล่าวคำอภัยโทษก็เกิดขึ้นน้อยมาก ถ้าตัวเรายังทำสิ่งที่ทำให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผลของมันอาจจะทำให้เรายากต่อการทำความดีและการทำอีบาดะฮฺทีเป็นวาญิบและสุนัต
2. อาหารที่ฮารอม
“และวันนั้นเราจะนำนรกญะฮันนัม มาเปิดเผยแก่พวกปฏิเสธศรัทธา คือบรรดาผู้ที่ดวงตาของพวกเขาถูกปกปิดจากการรำลึกถึงข้า และพวกเขาไม่สามารถจะได้ยิน(*1*)
(1) คือบรรดาผุ้ที่(ในโลกดุนยา) ดวงตาของเขาบอด ไม่พิจารณาใคร่ครวญถึงหลักฐานต่างๆ แห่งเดชานุภาพของอัลลอฮ์ และความเป็นเอกภาพของพระองค์ และไม่สามารถจะรับฟังพจานารถของอัลลอฮ์ ตะอาลา เพราะความมืดของหัวใจของพวกเขา (QS. 18: 100-101)
อาหารที่ฮารอมก็เช่นกัน สามารถปิดกั้นในส่วนต่างๆของร่างกายต่อการตออัต(เชื่อฟัง)เอกองค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.). โปรดจำไว้ว่า อาหารที่เราทานเข้าไปนั้นจะกระจายไปยังส่วนต่างๆของร่างกายผ่านการไหลเวียนเลือดทั่วร่างกาย หากอาหารนั้นผ่านมาถึงหู หูของเราก็จะไม่ได้ยินเสียงอายัต(โองการ) หากอาหารนั้นผ่านมาถึงดวงตา ดวงตาของเราก็ยากที่จะปฏิเสธการมองเห็นในสิ่งที่ฮะรอมหรือที่เป็นบาป
ฉะนั้นแล้ว เรามาร่วมกันหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นบาปหรือมะซียัตและอย่าลืมตรวจสอบอาหารที่เราใช้สักนิดว่ามันฮาลาลจริงๆ ท้ายแล้วขอให้เอกองค์อัลลอฮฺทรงมอบความรักในสิ่งที่เราทำการอามาลอีบาดัตต่อพระองค์
ที่มา .islamituindah
แปลและเรียบเรียงโดย awatih/Beritamuslim