ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
เป็นที่ทราบกันดีว่า การละหมาด ถือศีลอด และซิกรุลลอฮฺ และรวมไปถึงการทำอามาลอีบาดะฮฺอื่นๆ ซึ่งล้วนแล้วเป็นการกระทำที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงรักยิ่ง
ฉะนั้น Berita Muslim (เบอรีตามุสลิมนิตยสารมุสลิมออนไลน์) แอบเป็นห่วงไม่ได้ในพฤติกรรมของพี่น้องมุสลิมที่ชอบทำการละหมาด ถือศีลอด และซิกรุลลอฮฺ ล้วนหลงตัวเองว่าเป็นที่รักของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ยิ่ง เพราะในหนทางของพระองค์นั้นไม่ใช่เพียงแค่การละหมาด ถือศีลอด ซิกรุลลอฮฺ อย่างเดียว เป็นเพราะอะไรนั้น เรามาดูกันเลยค่ะ
ผู้เขียนขอสรุปบทความแบบไม่เป็นทางการมากเพื่อความเข้าใจง่ายนะคะ
1. บางครั้งเราคิดว่าละหมาดของเรานั้น ได้เป็นที่รักของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) และพระองค์ทรงรักเรายิ่ง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว หารู้ไม่ว่า ละหมาดที่เราได้ทำลงไปนั้น ล้วนแล้วเพื่อตัวของเราเอง เนื่องจากว่า เราจะได้รับการคุ้มครองจากสิ่งที่น่ารังเกียจและความชั่วร้ายทั้งปวง
2. บางครั้งเราคิดว่าการถือศีลอดของเรานั้น ได้เป็นที่รักของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) และพระองค์ทรงรักเรายิ่ง
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนหรือการบวชนั้น ล้วนแล้วเป็นการอดอาหารเพื่อการฝึกตัวเองในการต่อสู้กับนัฟซูที่ไม่ดี และยังเป็นการดูแลสุขภาพทางอ้อมอีกด้วย
3. บางครั้งเราคิดว่าการซิกรุลลอฮฺ ของเรานั้น ได้เป็นที่รักของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) และพระองค์ทรงรักเรายิ่ง
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การซิกรุลลอฮฺ ไม่ว่าเราจะทำเยอะแค่ไหนก็ตาม ล้วนแล้วเพื่อตัวของเราเองทั้งนั้น เนื่องจากว่า การซิกรุลลอฮฺ เยอะๆ สามารถทำให้จิตใจของเราสงบได้และมีความสุข
แล้วการกระทำอะไรละเป็นที่รักของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ?
ในความเป็นจริงแล้วมีการกระทำมากมายที่สามารถทำให้พระองค์รักเรา นั่นคือ การทำความดี ซึ่งการทำความดีนั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น การทำอีบาดะฮฺไม่เพียงแค่สิ่งวาญิปเท่านั้นแต่รวมไปถึงการทำ ซุนัตต่างๆ การซอดาเกาะฮฺ(การบริจาคทาน) การช่วยเหลือผู้คนที่มาจากใจที่อิคลาสต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) การให้ซากาต การช่วยเหลือเด็กกำพร้า และอื่นๆ
ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อเราสามารถช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อบรรลุสิ่งที่เขาจำเป็น และหวังผลตอบแทนมาจากพระองค์เท่านั้น แน่นอนว่าพระองค์ก็ย่อมตอบแทนเราเช่นกัน แต่บางทีก็ต้องเข้าใจด้วยว่า การตอบแทนของพระองค์นั้น อาจจะตอบแทนในรูแปแบบที่แตกต่างกันออกไป อินชาอัลลอฮฺ
ตามที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้ระบุไว้ในซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮ อายัตที่ 261-262
ความว่า “อุปมาบรรดาผู้ที่บริจาคทรัพย์ของพวกเขาในทางของอัลลอฮฺนั้น ดังอุปมัยเมล็ดพืชเมล็ดหนึ่งที่งอกขึ้นเป็นเจ็ดรวง ซึ่งในแต่ละรวงนั้นมีร้อยเมล็ด และอัลลอฮฺนั้นจะทรงเพิ่มพูนแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์อีก และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงกว้างขวาง ผู้ทรงรอบรู้ (261)
บรรดาผู้บริจาคทรัพย์ของพวกเขาในทางของอัลลอฮฺ แล้วพวกเขามิให้ติดตามสิ่งที่พวกเขาบริจาคไป ซึ่งการลำเลิกและการก่อความเดือด ร้อนใด ๆ นั้น พวกเขาจะได้รับรางวัลของพวกเขา ณ พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา และไม่มีความกลัวใด ๆ แก่พวกเขา และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ (262)”
อย่างไรก็ตาม การละหมาด ถือศีลอด แม้จะเป็นการกระทำเพื่อตัวของเราเองก็ตาม แต่เป็นสิ่งวาญิบที่เราจำเป็นต้องทำตามที่อิสลามได้ระบุไว้แล้ว ให้มุสลิมทุกคนปฏิบัติตาม ซึ่งก็รวมไปถึงการซิกรุลลอฮฺที่เป็นสิ่งซุนัตเพื่อให้จิตใจสงบสุข จึงทำให้เราไม่สามารถที่จะละเลยได้
ตามที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้ตรัสไว้ใน ซูเราะฮฺ อัซ-ซาริยาต อายัตที่ 56
ความว่า “และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า”
ฉะนั้น อย่าเพิ่งหลงตัวเองในการละหมาด ถือศีลอด ซิกรุลลอฮฺ อย่างเดียว ว่าจะได้เป็นที่รักของพระองค์แล้ว แต่เราต้องหมั่นทำความดีเพื่อตัวเองและส่วนรวมด้วย เพราะส่วนรวมก็เป็นหนึ่งในอะมานะฮฺที่มุสลิมทุกคนต้องรักษาไว้เพื่อความดีซึ่งกันและกัน และให้สังคมน่าอยู่ต่อไป และจับมือกันให้อิสลามเป็นหนึ่งเดียวได้ในที่สุด อินชาอัลลอฮฺ
เรียบเรียงโดย Fateemoh : Beritamuslimmag.com
ขอขอบคุณภาพประกอบโดย tazkirahdaily.blogspot.com