ทันทีที่ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง บอสใหญ่ทีมช้างศึก ตัดสินใจเรียกตัว นูรูล ศรียานเก็ม เก็ม ปีกขวาความเร็วสูง วัย 25 ปี จากทีม “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี กลับมาติดธงไตรรงค์อีกครั้งในเกมเยือนทีมชาติญี่ปุ่น การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี
บังรูล หรือ นูรูลเปิดเผย “”ผมยอมรับว่าผมตกใจเหมือนกัน ที่ถูกเรียกไปติดทีมชาติ แต่ในความตกใจก็มีความดีใจเข้ามา ที่รู้สึกว่าผมได้ถูกเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของทีม เพราะสำหรับผม การได้ติดทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก มันเป็นความฝัน และนี่คือครั้งแรกที่ผมได้เป็น 1 ใน 23 คน ของรายการนี้ ก่อนหน้านี้ที่ผมโดนตัดชื่อไป ผมไม่คิดอะไรมาก เพราะช่วงเวลาที่ผมได้ร่วมฝึกซ้อม หรือซึมซับบรรยากาศต่างๆ ในแคมป์ทีมชาติ มันถือเป็นประสบการณ์ที่ดี หากผมได้รับโอกาสลงสนาม ผมจะพยายามทำเต็มที่ที่สุด งัดจุดเด่นที่ตัวผมมีออกมาใช้ เกมนี้คงเป็นเกมที่ยาก เพราะทุกคนเองก็รู้จักญี่ปุ่นดี ว่าเขาเป็นทีมที่มี วินัยสูง และแท็กติกของเขาก็พร้อม แต่อย่างไรก็ตามเราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด และสุดท้ายผมต้องขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่ให้การสนับสนุนผม ให้การติดตาม ส่วนเรื่องการปรับตัวนั้น คงไม่น่าจะมีปัญหา เพราะรู้สึกว่าคุ้นเคยกันดีกับเพื่อนๆในทีมชาติชุดนี้ บางคนก็เจอกันในสโมสร ผมคิดว่าจังหวะการเล่นของชุดนี้พัฒนาขึ้นมาก เล่นบอลไว และสปีดบอลดี เล่นด้วยกันน่าจะสนุก ส่วนตอนนี้ยังไม่คาดหวังอะไร ขอเต็มที่กับการซ้อมก่อนครับ”
อนึ่ง นูรูล ศรียานเก็ม เป็นชาวจังหวัดพัทลุง นับถือศาสนาอิสลาม เริ่มเล่นฟุตบอลครั้งแรกเมื่ออายุ 7 ปี จนสามารถเข้าติดทีม พัทลุง เอฟซี จนศึกษาจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เขาได้ย้ายมาศึกษาต่อที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และมีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ ACS คัพ สองสมัยซ้อนในปี พ.ศ. 2552 และ 2553 แชมป์ฟุตบอล 7 คน 7 สี จากนั้นโชว์ฝีเท้าได้ดีเรื่อยมาจนได้รับการเซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนกับสโมสรฟุตบอลชลบุรี เอฟซี ในปี พ.ศ. 2550 และเคยมีชื่อติดทีมเยาวชนทีมชาติไทยชุด U 19 , U 20 U 22 และ U 23
สำหรับการติดทีมชาติในครั้งนี้นั้น เนื่องจากเขาทำผลงานอย่างดีเยี่ยมกับต้นสังกัดในช่วง 6 เกมแรก จนถูก เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน เรียกเข้ามาเป็น 1 ใน 29 ขุนพลชุดเตรียมลุยฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก แทนกัปตัน ธีราทร บุญมาทัน โดนใบเหลืองครบเป็นใบที่สอง ในเกมที่เปิดบ้านพ่ายให้กับทีมชาติซาอุดิอาระเบียไป 0-3 วันที่ 23 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา
