แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับธุรกิจร้านบิงซูขนมหวานเกล็ดหิมะสัญชาติเกาหลี ซึ่งอาจจะเรียกว่า บ้านเราเมืองเราวันนี้ หาบิงซูทานได้ง่ายกว่า เรียกหาแท็กซี่ในช่วงเวลาเร่งด่วนอีก ก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่า ก่อนจะกลายเป็นบิงซูที่มีรสหวาน ชื่นใจและสีสันสวยงามได้นั้น จะต้องใช้กรรมวิธีและวัตถุดิบมากพอสมควร กว่าจะได้ผงน้ำแข็งที่ละเอียดประหนึ่งหิมะบริสุทธิ์จากประเทศเมืองหนาว ที่เรียกว่า บิงซูนี้
ปุยฝ้าย บิงซู สตาร์ทอัพมุสลิมน้องใหม่ที่อาศัยประสบการณ์ซึ่งสั่งสมจากการทำอาหารและเบเกอรีมาเกือบ 2 ทศวรรษ ตกตะกอนความคิดจนกลายเป็นธุรกิจใหม่บิงซูจากร้านเล็กๆ ย่านลำลูกกาที่วันนี้กำลังเป็นที่จับตาของโลกโซเชียลก่อนจะต่อยอดเป็นผงบิงซูฮาลาล 100%ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคมุสลิม
“ซัลฮะห์”วราภรณ์ เรืองสุวรรณ คีย์แมนของปุยฝ้าย บิงซูเล่าให้เราฟังว่าเริ่มแรกเลย มีแนวคิดเรื่องการทำผงบิงซูมาก่อนที่จะเปิดร้าน เพราะมองว่ามุสลิมยังไม่มีผงบิงซูที่ฮาลาล 100%การซื้อจากที่อื่น ไม่สามารถรู้ได้เลยว่า มีส่วนผสมอะไรบ้าง ถ้าเราทำเองคือ ชัวร์ที่สุด อีกอย่างทางมะฮฺเองก็ทำเบเกอรีอยู่แล้ว จึงรู้ดีว่า ส่วนผสมใดบ้างที่ใส่ได้ หรือใส่ไม่ได้”
หลังจากเกิดไอเดีย ก็มาสู่การลงมือทำ ด้วยประสบการณ์ที่ช่ำชองจากธุรกิจเบเกอรี่ของผู้เป็นแม่ ไม่นานนัก ก็ได้ผงบิงซูตามที่เธอต้องการ สิ่งที่ต้องทำต่อจากนั้น คือ การพยายามเสาะหาผงบิงซูแต่ละแห่งเพื่อมาเปรียบเทียบให้ได้รสชาติและคุณภาพที่ใกล้เคียงกัน
“ตอนนั้น ลองซื้อจากที่อื่นมาหลายที่ มาเพื่อเทสต์ดูว่า ผงของที่อื่นเหมือนกับเราทำไหม เมื่อได้สูตรการทำผงแล้ว สิ่งที่ต้องทำตามมาคือ ต้องมีหน้าร้าน เพราะถ้าไม่มีร้านความน่าเชื่อถือก็ยังไม่มี ก็เลยตัดสินใจว่า ต้องเปิดร้านเป็นของตัวเองการทำร้านบิงซูต่างจากร้านอาหารหรือร้านขนมอื่นๆ เพราะราคาไม่ใช่สิ่งสำคัญ บิงซูเป็นเรื่องของหน้าตา คนส่วนใหญ่ที่สั่งมาบิงซูมาทาน ถ้าไม่ได้ถ่ายรูป มันไม่ใช่บิงซู เราเลยมีคอนเซปท์ว่า ใครที่มาร้านทุกคนต้องถ่ายรูป กว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา กระแสตอบรับเป็นไปในทางที่ดีต่อเนื่องลูกค้าส่วนใหญ่มาจากเพจเป็นหลัก บางคนมาจากฝั่งธนฯ บางคนมาจากนนทบุรี เลยกลายเป็นที่มาของร้านว่า ผ่านลำลูกกาอย่าลืมนึกถึงเราบางคนแวะมาเยี่ยมญาติแถวหนองจอกก็แวะมาทาน มาซื้อของฝาก ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า บิงซูร้านเรา ไม่หวานมาก คุณภาพเกินราคา แถมยังมั่นใจได้ว่า ฮาลาล 100%”
เมื่อแบรนด์ปุยฝ้ายบิงซูเริ่มเป็นที่รู้จัก ซัลฮะห์จึงเริ่มสานต่อความคิดในการทำธุรกิจผงบิงซูฮาลาลโดยเธอจำแนกการขายเป็น 2 รูปแบบคือ ขายผงบิงซูอย่างเดียว และแบบการขายสตาร์ทอัพ
“การขายผงอย่างเดียว ไม่มีอะไรมาก สั่งซื้อที่ 2,500 บาท ไม่จำกัดว่า จะกี่รสก็ได้ กี่สีก็ได้ ตอนนี้หลักๆ มี 3 รส คือ วนิลา ชาเขียวและ ช็อคโกแลต โดยเราจะมีคู่มือการใช้งานให้ เหมาะสำหรับคนที่มีร้านหรือทำเบเกอรีอยู่แล้ว ไม่ต้องเสี่ยงต่อการที่จะซื้อผงที่ไม่ฮาลาลอีกรูปแบบหนึ่งคือ สตาร์ทอัพ เหมาะสำหรับคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองโดยทางเราจะเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลตั้งแต่เริ่มแรก ให้สูตร อบรมการทำ ให้คำปรึกษาเรื่องการตลาด การตั้งราคา ไปจนถึงการจัดหาอุปกรณ์ โดยไม่มีข้อผูกมัดกันต่อเนื่องกันว่าต้องใช้แบรนด์เรา ซึ่งลูกค้า สามารถเลือกได้ว่า เฉพาะบิงซูหรือรวมหมดทุกอย่าง ทั้งบิงซูเบเกอรีและสูตรน้ำ” เจ้าของปุยฝ้ายบิงซูกล่าวทิ้งท้าย
ตราบใดที่อากาศร้อนยังอยู่คู่ประเทศไทย ธุรกิจน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลีอย่างบิงซูก็ยังเป็นธุรกิจที่มีอนาคต สำหรับคนที่มีฝันอยากเป็นเจ้าของร้านบิงซูเล็กๆ น่ารักสักร้าน อย่าปล่อยให้ความฝันผ่านเลยไป ไม่แน่ว่า คอนเซ็ปท์ธุรกิจแบบปุยฝ้ายบิงซู อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคุณก็เป็นได้