THE BILLIONAIRE AND THE LANDED ELIYE

โพสเมื่อ : 2019-01-08 8:00 น. หมวดหมู่: Cover Story

“นานา”  หนึ่งตระกูลมุสลิมเก่าแก่ที่เข้ามาอาศัยใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารตั้งแต่ปลายรัชกาลที่
3 จากพ่อค้าเมืองสุรัตแห่งชมพูทวีป ที่รอนแรมมากับเรือสินค้า มีเพียงแค่เสื่อผืนและหมอนใบ
จนกลายเป็นพ่อค้าวานิชผู้มั่งคั่ง

จาก
King of Sugar ก่อนจะผันตัวเองกลายมาเป็นราชาที่ดินของเมืองไทย
ทุกวรรคตอนของประวัติศาสตร์กว่า 160 ปี ของสาแหรกตระกูลนานา ล้วนแต่เข้มข้นน่าสนใจซึ่ง
Berita Muslim Life ฉบับนี้ ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก
คุณมนัส (มูฮัมหมัด) นานา ประธานบริหารโรงแรมนูโวซิตี้ หนึ่งในทายาท รุ่น 5 ของตระกูล
เปิดรั้วบ้านนานาต้นถนนสุขุมวิท มาบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน

“ตระกูลนานา
เรามีที่มาจากเมืองสุรัต ในอินเดีย โดยฮัจยี อาลีบาย อะหมัด เทปาเดีย
ขณะนั้นเมืองสุรัตถือเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าที่มีความสำคัญ
ทันทีที่เข้ามาเมืองไทย ท่านอาลีบายได้เริ่มทำการค้าขายและได้มีโอกาสเข้ารับราชการในสังกัดกรมพระคลังสินค้า
ทำหน้าที่เป็นล่ามภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับเรือสินค้าที่มาจากต่างประเทศ
จนภายหลังได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นพระพิเทศสันตรพานิช”

“ซึ่งในขณะที่ได้รับโปรดเกล้าฯ
ให้เป็นพระพิเทศสันตรพานิช นั้น ท่านอาลีบายได้มีโอกาสตามเสด็จรัชกาลที่ 5
ในการเยือนอินเดีย เพื่อทอดพระเนตรความเปลี่ยนแปลง
หลังตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษและนำมาสู่การตัดสินพระทัยมอบดินแดนบางส่วนให้อังกฤษและฝรั่งเศส
เพื่อให้รอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้น และยังคงเอกราชมาถึงทุกวันนี้”

หลังจากสิ้นแผ่นดินรัชการที่
5 นายอาหมัด อิบรอฮีม หรือ เอ.อี นานา ทายาทรุ่นที่สาม ผู้สร้างความั่งคั่งให้ตระกูลได้ย้ายกิจการจากฝั่งธนบุรีย่านมัสยิดกูวติลข้ามฝั่งมาอยู่พระนคร
โดยได้ตั้งบริษัทชื่อว่า แรนเดอรีเบอรามาการ เมื่อปี  พ.ศ.2458 คนส่วนใหญ่อาจจะรู้แต่เพียงว่า
ความมั่งคั่งของตระกูลนานามาจากค้าขายที่ดินแต่ในความเป็นจริงแล้วการค้าขายที่ทำให้ตระกูลนานาลืมตาอ้าปากจนกลายเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยของสยามประเทศขณะนั้นคือ
น้ำตาล ซึ่งส่งผลให้ เอ.อี. นานา หลานปู่ของอาลีบาย อะหมัด เทปาเดีย กลายเป็น
King of Sugar
ในเวลาต่อมา

“นาย
เอ.อี นานา คุณปู่ของผม ท่านได้มรดกมาเป็นแค่มีดพับเล่มหนึ่ง
เก้าอี้หวายอีกตัวหนึ่ง อาชีพเดิมคือ พายเรือรับจ้างได้ครั้งละ  2 สตางค์ เก็บหอมรอมริบจนเริ่มมีเงินก้อน
พออายุได้ 44 ปี จึงได้เดินทางไปที่อินเดียเพื่อนำผ้าทอดิ้นเงินดิ้นทองจากเมืองสุรัตมาจำหน่าย
ในยุคนั้นคนจะใช้ผ้าดิ้นเงินดิ้นทองมีเฉพาะคนในวัง เมื่อได้มีโอกาสเข้าไปในวังทำให้คุณปู่ได้รับความเมตตาจากพระบรมวงศานุวงศ์หลายๆพระองค์และนำซึ่งโอกาสต่างๆมากมาย
เมื่อการค้าการขายเริ่มดีขึ้น จนท่านมีเรือสินค้าสองลำ จึงเริ่มนำน้ำตาลจากอินโดนีเซียมาขายพอได้เงินมาก็ไม่ได้ฝากธนาคารเพราะศาสนาห้ามเรื่องดอกเบี้ยเลยเก็บเงินไว้ในโกดังที่บ้าน
พอเริ่มมากเข้าๆก็เลยเริ่มนำมาซื้อที่ดิน”

จนเมื่อประเทศไทยต้องเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่สอง
การซื้อที่ดินดังกล่าวก็ได้กลายเป็นสิ่งสำคัญประการเดียวที่ทำให้นายห้าง เอ.อี
นานา รอดพ้นจากการสิ้นเนื้อประดาตัว

“คุณปู่ซื้อที่เยอะมาก
มีทั้งแถบฝั่งธนบรีและแถวสุขุมวิท ตอนนั้นยังไม่มีถนน
ที่ท่านซื้อที่แถวสุขุมวิทก็เพราะท่านทราบมาว่า
จะมีทางรถไฟสายแรกจากกรุงเทพฯไปสมุทรปราการ เมื่อมีทางรถไฟตัดผ่านความเจริญจะตามมา
ท่านก็เลยมาซื้อเก็บไว้ คุณลุงของผม (คุณเล็ก นานา)
เคยเล่าให้ฟังว่าคุณปู่เริ่มซื้อจากริมทางรถไฟ บริเวณสุขุมวิท ซอย 1
ในปัจจุบันไปถึงประมาณซอย 23 (ประสานมิตร) ก่อน หลังจากนั้นก็ซื้อต่อไปเรื่อยๆ
จนใกล้ๆพระโขนง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่นาทั้งหมด ขณะที่การค้าขายน้ำตาลก็ยังคงดำเนินอยู่”

“จนมาถึงจุดเปลี่ยน
เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สองทางการญี่ปุ่นอยากได้เรือสินค้าทั้ง 2
ลำเพื่อนำไปเปลี่ยนเป็นเรือรบ คุณปู่มองว่า
สงครามไม่น่ายืดเยื้อรวมถึงท่านเองไม่อยากให้ประเทศไทยต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก
เลยตัดสินใจจมเรือตนเอง แต่สงครามกินเวลาหลายปีกว่าจะเสร็จสิ้น
เมื่อมีการกู้เรือขึ้นมา ปรากฏว่าเป็นสนิมทั้งลำใช้การไม่ได้
จากเศรษฐีที่เคยร่ำรวยเป็นลำดับสองของประเทศ ต้องกลายเป็นคนล้มละลาย
เพราะธุรกิจทุกอย่างหยุดหมด”

“ตอนนั้นคุณปู่ยังได้สอนลูกๆอีกว่า หลายตระกูลร่ำรวยขึ้นมาจากการกักตุนสินค้า
แล้วนำมาขายในราคาแพง แต่เราจะไม่ทำเช่นนั้น เพราะเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักศาสนา
และจะทำให้คนที่จนอยู่แล้วยิ่งลำบากขึ้น
คุณปู่เลือกที่จะยอมล้มละลายแทนแต่เหมือนอัลลอฮฺ(ซ.บ.) ทรงช่วย
ตอบแทนที่เราไม่ซ้ำเติมคนจน หลังสงครามที่ดินที่ซื้อไว้ จากตารางวาละบาท
ก็กลายเป็นยี่สิบ-สามสิบบาท คุณปู่เลยตัดสินใจขายที่บางส่วนเพื่อใช้หนี้
ที่ดินส่วนที่เหลือบางส่วนท่านก็นำมาจัดเป็นล็อกๆขาย
จนกลายเป็นคนแรกที่จัดสรรที่ดินในประเทศไทยและกลายเป็นราชาที่ดินในขณะนั้น”

ด้วยความสำนึกในมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์สิ่งที่คนในตระกูลนานาได้รับความปลูกฝังมาทุกรุ่นคือต้องรักและซื่อสัตย์ต่อประเทศที่พำนักอาศัยตอบแทนแผ่นดินไทยอย่างเต็มที่และเต็มใจ

“เรามีกองทุนซะกาตหรือกองทุนวากัฟที่ใหญ่มาก
ในการบริหารกิจการงานทุกอย่าง เรายึดมั่นในหนทางฮาลาลตามทางของพระเป็นเจ้าด้วยความสุจริต
ไม่เอารัดเอาเปรียบ นอกจากนั้นเรายังรักและซื่อสัตย์ต่อผืนแผ่นดินไทย
และพร้อมจะตอบแทนเท่าที่ทำได้ ในรุ่นคุณปู่ท่านได้มอบที่ดินให้กับทางราชการมากมาย
อย่างเช่นที่ดินบริเวณสยามสมาคมในปัจจุบัน”  

“มาถึงรุ่นคุณเล็ก ช่วงที่เป็นรัฐมนตรีท่านก็ได้พยายามสร้างคุโณปการให้กับประเทศชาติ  เมื่อท่านทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชการที่ 9 ทรงมีพระราชประสงค์ที่สร้างสวนสมเด็จย่าฯ แถววัดอนงค์
ท่านก็ทูลเกล้าฯถวายที่ดินบริเวณดังกล่าวทันทีหรือแม้แต่ในรุ่นผมซึ่งเป็นรุ่น 5
เราก็ภูมิใจว่า คนในตระกูลอย่าง ศ.นพ.อรรถ นานา ได้เป็นผู้ที่อยู่ในทีมแพทย์ที่ถวายการดูแลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
และเป็น 1 ใน 2 นายแพทย์ที่ได้เป็นศ.เกียรติคุณหลังเกษียณอายุราชการ”

นานา
ที่หลายคนไม่รู้

นานา
ชื่อประราชทาน

สกุลดั้งเดิมของฮัจยีอาลีบาย
คือ เทปาเดีย วันหนึ่งท่านและลูกหลานได้มีโอกาสได้เข้าเฝ้ารัชการที่ 5 ได้หลุดปากดุลูกหลานที่ซุกซนอยู่ไม่สุขต่อหน้าพระพักตร์เป็นภาษาคุชราต
เมื่อพระองค์ได้ยินคำว่า นานา จึงทรงตัดถามว่าคืออะไร ท่านอาลีบายทูลตอบกลับไปว่า
นานา หมายถึง เด็กๆ พระองค์จึงทรงมีรับสั่งว่าเทปาเดียเรียกยาก
ต่อไปให้เรียกนานาแทน ดังนั้น นานา
จึงเปรียบเสมือนนามสกุลพระราชทานที่นับเป็นเกียรติสูงสุดของคนในตระกูลนานาตราบจนถึงทุกวันนี้

นานากับชื่อซอย

ในฐานะที่
นาย เอ.อี นานา เป็นผู้ที่ริเริ่มจัดสรรที่ดินคนแรกของสยามประเทศ ท่านได้นำชื่อลูกตลอดจนชื่อเพื่อน
มาตั้งเป็นชื่อซอย อาทิ ซอยอารีย์ ซอยอิบราฮีม ซอยอิสมาอีล ซอยมะหะมูด ซอยยูซูป
รวมถึงซอยไชยยศ และ ซอยปรีดา ที่มาจากชื่อของพระยาไชยยศสมบัติ
และพระยาปรีดานฤเบศร์ เพื่อนของท่านจนล่วงมาถึงยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม
ได้สั่งเปลี่ยนชื่อซอยที่ชื่อแขกใหม่ คงเหลือแต่ซอยนานาและซอยอารีย์เข้าใจว่าเป็นภาษาไทย

นานา
กับตราออตโตมัน

หลายคนยังไม่เคยทราบ
ตราออตโตมันที่ประดับอยู่ที่มัสยิดแม่บาง (บางอุทศ) มีที่มาอย่างไร และอาจไม่ทราบนามสกุลแม่บางคือ
นานา ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 104 ปี ล่วงมานาย เอ.อี นานา ได้ตั้งโรงเรียนอันยุมันอิสลาม
และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสภากาชาดไทย ช่วงนั้นประเทศตุรกีได้เกิดอหิวาตกโรคระบาดมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
นาย เอ.อี นานา ได้ส่งเงินไปช่วย 9,000 ฟรังก์
กษัตริย์ตุรกีขณะนั้นจึงส่งตราออตโตมันให้เพื่อเป็นการตอบแทน และได้นำมาประดับอยู่ที่มัสยิดบางอุทิศดังที่เห็นในปัจจุบัน

บทความล่าสุด

หลักคำสอนอิสลาม สู่การกำเนิด ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ “Shabab Co...

อัสลามูอาลัยกุม ขอความจำเริญมาสู่พวกท่าน ในเดือนสุดท้ายของปี 2565 ก็ให้ทุกคนที่ต...

2022-12-21 10:09
“เราพยายามพัฒนาเรื่องการเซอร์วิสให้เป็นมาตรฐานโลก” อธิศ (อาห...

อธิศ (อาหมัด) นานา / Assistant Vice President Nouvo City Hotel “เราพยายามพัฒนา...

2022-11-29 16:55
นก บินซอและห์ / กับบทบาทใหม่ของการบริหารธุรกิจเนื้อวัว “สินธ...

ถ้าให้ลองนึกถึงเนื้อวัวคุณภาพสูงและราคาจับต้องได้ เราจะนึกถึงใคร แน่นอนว่าต้องมี...

2022-10-25 11:53
ประสบการณ์จากคุณพ่อ สู่การบริหารธุรกิจ Afeef Tours

นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันการท่องเที่ยวนั้นยังคงเป็นการพักผ่อนที่ใครหลายๆ คนชื่...

2022-09-19 10:05