ณ สถานกงสุลใหญ่
สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ประเทศไทย ใจกลางกรุงเทพมหานครฯ ทีมงาน BERITA
MUSLIM LIFE ได้รับเกียรติสัมภาษณ์นักการทูตหนุ่มไฟแรงในฐานะรองกงสุลอุซเบกิสถาน Mr.Jamshid
Safarov ที่มีภารกิจสำคัญเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สร้างมิตรภาพ
ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมภาพลักษณ์ ตลอดจนสนับสนุนส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเปิดประเทศให้กับคนไทยและประเทศต่างๆ ได้รู้จักมากยิ่งขึ้น
อุซเบกิสถาน เป็นประเทศแห่งอารายธรรมโบราณเสมือนประตูสู่เอเชียกลาง
ที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมสืบทอดมาหลายยุคหลายสมัย เป็นอาณาจักรเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกที่มีอายุกว่า
2,000 ปี ภูมิประเทศด้านตะวันออกติดกับคีร์กิซและทาจิกิสถาน
ด้านตะวันตกติดกับเติร์กเมนิสถาน ด้านเหนือติดกับคาซัคสถาน
ส่วนตอนใต้ติดกับอัฟกานิสถาน หลายเมืองมีพื้นที่เชื่อมต่อกับเส้นทางคาราวานโบราณหรือ
“SILK ROAD”
หลังจากได้รับอิสรภาพจาก สหภาพเวียตฯในปี ค.ศ.
1991 ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมปีเดียวกัน
รวมทั้งมีสายการบินประจำชาติ “อุซเบกิสถาน แอร์ไลน์”
เปิดบินระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิกับสนามบินทาชเค้นท์ สัปดาห์ละหลายเที่ยว
ทำให้มีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจเดินทางโดยสะดวก โดยคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น
ด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม มีโบราณสถาน สถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรม
ที่น่าสนใจ
ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมจำนวนมาก ขณะนี้รัฐบาลจัดให้มีสิ่งอำนวยสะดวกด้านต่างๆเช่น
โรงแรม ร้านอาหาร การดูแลความสะอาด ความปลอดภัยเพื่อรองรับ แม้เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล
แต่ได้มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องด้วยจุดแข็งทางทรัพยากรธรรมชาติ เกษตรกรรม
ปศุสัตว์ และการท่องเที่ยว จึงมีอัตราการเติบโดตทางเศรษฐกิจเป็นอันดับต้นๆของโลก
ปัจจุบันอุซเบกิสถานเปิดเสรีทางการค้า-การเงิน (Free Economic zone) ทำให้มีการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งนับว่าคือความคาดหวังของรัฐบาลที่ต้องการให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียกลางอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน
ยังมีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่นำมาใช้ในประเทศและส่งออก
นอกจากนี้แล้วยังมีสินค้าที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงมาก เช่น เครื่องเทศ สมุนไพร ผลไม้สดและแห้ง รวมไปถึงผ้าไหมที่มีความสวยงามและคุณภาพดี ราคาย่อมเยา
ซึ่งเป็นสินค้าที่สืบทอดมาจากประวัติศาสตร์บนเส้นทางสายไหม
อย่างไรก็ตามที่นี่ยังมีเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกมากมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว
อาทิ
ซามาร์คานด์(Samarkand)
เมืองมรดกโลกที่มีอยู่ในรายชื่อ “50 เมืองที่ต้องมาชม” เมืองการค้า การปกครอง
การศึกษา
บุคาร่า(Bukhara)
หนึ่งในเมืองศักสิทธิ์ที่เก่าแก่มากในโลก
มีมัสยิดสวยงามจำนวนมาก ทั้งยังเป็นเมืองแห่งการศึกษา
มีนักปราชญ์ นักคิด คนสำคัญของโลกอิสลามคือ “อิหม่ามบุคอรียฺ” ผู้รวบรวมบันทึก
ฮะดีษ ของศาสดามูฮำหมัด (ซ.ล.)หลายพันบท และได้รับความเชื่อถือเป็นอันดับต้นๆของโลกอิสลาม
เทอร์เมส(Termeg) เมืองในยุคโดบราณที่ผันผ่านจากยุคหินสู่พุทธศาสนาและอิสลามในเวลาต่อมา
คีว่า(Khiva)
เมืองที่ถูกกล่าวขานกันว่าเปรียบเสมือน”ไข่มุกโลก”
ทาสเค้นท์ (Tashkent)
เป็นเมืองหลวงของอุซเบกิสถานที่รวบรวมความทันสมัยและวัฒนธรรมโบราณไว้ด้วยกัน
ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางธุรกิจและวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง
สำหรับผู้ที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์การสร้างอุซเบกิสถานให้มีความเป็นปึกผ่านมั่นคงคือ
กษัตริย์อมีร์ ติมูร์(Amir Temur the great)หรือที่ชาวตะวันตกรู้จักในนาม
“ทาเมอร์เลน” ผู้ที่สร้างความยิ่งใหญ่และเจริญรุ่งเรืองให้กับเอเชียกลางและตั้งอาณาจักรขึ้นที่
ซามาร์คานด์