“ขัตติยะอารี”เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในสังคมมุสลิมและสังคมโดยรวม
เนื่องจากเป็นครอบครัวที่ทำงานด้านสังคมสงเคราะห์มาอย่างยาวนานตั้งแต่บิดาและมารดา เจตนารมณ์ดังกล่าวได้ถูกถ่ายทอดสู่บุตรธิดาให้รู้จักคุณค่าแห่งการเสียสละ สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้คนที่ด้อยโอกาสทางสังคม
ทายาทในยุคปัจจุบัน เป็นทายาทรุ่นที่สองซึ่งเกิดและเติบโตในแผ่นดินไทย โดยคุณปู่มีเชื้อสายอินเดียจากสกุล “ฮูเซ็น”
คุณตามีเชื้อสายอินโดนีเซียทางสุมาตราตอนเหนือจากตระกูล “บาโรส” แต่งงานกับคุณยายซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีนโดยลงหลักปักฐานในชุมชนมุสลิมเขมรบ้านครัวที่ขึ้นชื่อในการทอผ้าไหม
ตระกูลนี้เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากมุสลิมีนที่ถูกเรียกขานในกลุ่มมุสลิมด้วยกันว่า“ใบ๋อันวัร”
“พี่อันวัร” หรือคุณพ่อวานิช ขัตติยะอารี นักธุรกิจอัญมณีซึ่งเป็นผู้รู้ทางศาสนาและปรัชญาอิสลาม
ซึ่งคอยช่วยเหลือคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างอยุติธรรมในสังคมมาโดยตลอด
ในขณะที่ภรรยา “คุณแม่ฮาบีบะห์”นอกจากจะคอยดูแลลูกๆแล้ว
ยังทำงานออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าและช่วยงานสังคมสงเคราะห์ของ “มูลนิธิราชการุญ” ฝึกสอนเด็กนักเรียนกำพร้ายากจนตัดเย็บเสื้อผ้าเพื่อนำไปประกอบอาชีพต่อไปในอนาคต
และแม้ว่าท่านทั้งสองจะเสียชีวิตหลายปีแล้ว
แต่เรื่องราวความเอื้ออาทรยังถูกจดจำและกล่าวขานจนทุกวันนี้
ท่านทั้งสองมีบุตร
ธิดา รวม 10 คน แม้จะเสียชีวิตไปแล้ว 2 คน แต่อีกทั้ง 8 คน ยังคงอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวขนาดใหญที่อบอุ่น
ดำรงตามคำสั่งสอนจากบิดา มารดา จากการที่เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล
จึงส่งเสริมให้ลูกๆมีอิสระทางความคิด เชื่อมั่น กล้าหาญ ทุกคนจึงมีโอกาสไปศึกษาต่อยังต่างประเทศทั้งอเมริกาและเอเชีย
สำหรับพี่สาวคนโตและผู้นำของครอบครัว
“ฮัจยะห์ดารา ขัตติยะอารี” หรือ
พี่ด๊ะห์ เป็นประธานมูลนิธิแม่บ้านไทยมุสลิม องค์กรที่ก่อตั้งมากว่า 20 ปี
เพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้ายากไร้ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา ส่งเสริมอาชีพหญิงหม้าย สนับสนุนครูสอนศาสนาและวัฒนธรรมอิสลาม
รวมทั้งให้ความร่วมมือกับองค์กรต่างๆเพื่องานสาธารณประโยชน์ของสังคม
ในฐานะที่ทำงานด้านสังคมสงเคราะห์มาอย่างต่อเนื่อง ฮัจยะห์ดาราจึงได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมประจำปี
พ.ศ. 2561 และได้รับรางวัล “โกฮาร์ชัด” (Gohashad) จากรัฐบาลสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
เป็นรางวัลเกียรติคุณมอบแด่สตรีมุสลิมที่มีผลงานดีเด่นจากหลายภูมิภาคของโลก
“ท่านนบีมูฮัมหมัด
(ซ.ล.) มีวจนะว่าผู้ใดที่ให้การช่วยเหลือ โอบอุ้ม เด็กกำพร้านั้นๆ พระเจ้าจะประทานภาคผลให้ โดยเขาจะได้อยู่เคียงข้างกับท่านนบีในสรวงสวรรค์
ประดุจดังนิ้วที่ชิดกัน” ฮัจยะห์ดารา กล่าว
ขณะที่คุณสุพัตราหรือมารียะห์
ทำงานเป็นผู้แทนประจำประเทศไทยขององค์กรนานาชาติด้านมนุษยธรรม
ที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ “มูลนิธิฟรังซัวส์ ซาเวียร์ บันยูด์” (Francois-Xavier Bagnoud) หรือ FXB Thailand มานานกว่า 20 ปี เพื่อช่วยเหลือ ป้องกันและส่งเสริม งานด้านสิทธิเด็ก สตรี
ผู้ด้อยโอกาสที่อยู่ในสภาวะวิกฤติ เป็นเหยื่อของการถูกกระทำ ถูกคุกคาม ละเมิดสิทธิ
ตลอดจนเหยื่อการค้ามนุษย์ สงคราม โรคร้าย
หญิงเก่งคนนี้ยังเคยเป็นคณะทำงาน
รายงานสถานการณ์เด็กในสังคมไทยของอนุกรรมการสิทธิเด็ก ประเทศไทย
ของสหประชาชาติ เธอกล่าวให้ทัศนะว่า
“สังคมควรให้ความสำคัญกับเด็กๆที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความยากจน
หิวโหย เป็นเหยื่อของความรุนแรงที่เกิดจากผู้ใหญ่ กระทั่งขาดโอกาสทางการศึกษา
นำไปสู่การขาดโอกาสในชีวิตหากเราพูดว่า “เด็กคืออนาคตของชาติ”
ในวันนี้เราต้องหันมาดูแลเอาใจใส่และฟังเสียงของเด็กอย่างจริงจัง ให้เกิดเป็นวาระแห่งชาติ
ในการทำงานเพื่อเด็กของทุกๆประเทศ”
นอกจากนี้คุณมารียะห์ ยังได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนฝ่ายมุสลิมของ
“มูลนิธิพิพิธภัณฑ์แม่” ในฐานะกรรมการฯ โดยมีท่าน อาจารย์ระพี สาคริก
เป็นประธานมูลนิธิ
ทางด้านน้องสาวอีกสองท่านคือคุณโนรีและคุณฟาธิ
(กาญจนา ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา) รวมถึงคุณวินัยซึ่งเป็นน้องชาย
เคยทำงานด้านมนุษยธรรมกับองค์กรระหว่างประเทศอย่าง “องค์การกาชาดสากล” (Internation committe
of the Red Cross ) หรือ ICRC ที่ก่อตั้งโดยท่านเฮนรี่ ดูนังต์
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี
มีพันธกิจเพื่อช่วยเหลือเหยื่อของสังคมในหลายประเทศ ตลอดจนดูแลให้ผู้อพยพลี้ภัยไปตั้งรกรากใหม่ในประเทศที่มีสภาวะที่ปลอดภัย
เช่น ผู้ลี้ภัยจากเวียตนาม กัมพูชาและลาว
เป็นต้น องค์กรนี้ยังเฝ้าระวังไม่ให้ประชาชนที่บริสุทธิ์ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
ถูกทำร้าย ถูกฆ่าในสภาวะสงคราม
สำหรับพี่ชายคนโตคุณเลิศชัยหรือพี่ปีเตอร์
อดีตเป็นนักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารไทยในนครนิวยอร์ค
ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษให้เยาวชน เจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนและองค์กรต่างๆ ในกรุงเทพฯ
น้องชายอีกคนหนึ่งของตระกูล
คุณวินิจหรือคุณมุสลิมเป็นนักธุรกิจที่ใช้เวลาส่วนหนึ่งช่วยเหลือประสานงานฝ่ายต่างประเทศให้กับมูลนิธิแม่บ้านไทยมุสลิมทั้งยังช่วยงานสาธารณประโยชน์
ช่วยหาทุนทรัพย์ก่อสร้างมัสยิดและโรงเรียนในพื้นที่ต่างๆ
ส่วนน้องชายคนเล็กของครอบครัวคุณวิษณุหรือคุณอารีฟ
เป็นนักร้องนำในวงดนตรีที่พร้อมรับเชิญเป็นนักร้องกิตติมศักดิ์
ช่วยเหลือหลายองค์กรทั้งมูลนิธิ สมาคม
ในงานหาทุนการกุศล เช่น งานราตรี 1001 ทิวา ของมูลนิธิแม่บ้านไทยมุสลิม
นี่เป็นเพียงประวัติโดยสังเขปของครอบครัว
“ขัตติยะอารี” ที่เดินตามรอยทางของบรรพบุรุษ ที่มุ่งเน้นให้คุณค่าการช่วยเหลือ เผื่อแผ่
เอื้อเฟื้อ ต่อเพื่อนมนุษย์
ซึ่งเป็นพลังสำคัญในการสร้างชีวิตที่ดีสำหรับผู้ด้อยโอกาสทางสังคม โดยการกระทำดังกล่าว
สอดคล้องกับคำพูดอมตะที่ว่า “เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก”