ทำไม มุสลิม ต้องเป็นดาว-เดือน

ทุกคนที่เป็นมุสลิมส่วนใหญ่แล้ว จะคุ้นเคยและเติบโตมากับสัญลักษณ์ดาว-เดือน เพราะเป็นหนึ่งสิ่งที่มักจะปรากฏอยู่ในทุกที่ที่บ่งบอกถึงความเป็นมุสลิม อาทิ ธงชาติของประเทศมุสลิม มัสยิด ร้านอาหาร โรงเรียนหรือตามอาคาร บ้านเรือน แต่เชื่อเหลือเกินว่า มีจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ไม่ทราบว่า เจ้าโลโก้ดาวกับเดือนที่ว่า เข้ามาข้องเกี่ยวกับมุสลิมได้อย่างไร

แน่นอนว่า ทั้งจันทร์เสี้ยวและดวงดาว ไม่ใช่สิ่งที่มุสลิมเคารพสักการะ เพราะศาสนาอิสลามสอนไว้อย่างชัดเจนว่าอัลลอฮฺ(ซ.บ) นั้นทรงเกลียดมากกับการเข้าหาพระองค์นั้นโดยผ่านสิ่งที่เป็นรูปปั้นต่างๆ  และนั่นก็หมายความรวมถึงสัญลักษณ์ของจันทร์เสี้ยวและดวงดาวด้วยเช่นกัน 

แล้วทำไมมุสลิมถึงต้องใช้สัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวและดวงดาว มี 6 เหตุผลที่ Berita Muslim รวบรวมมาให้ ลองติดตามกันดูนะคะ

1. เป็นชื่อซูเราะฮฺหนึ่งของอัลกุรอาน

 

 

มันไม่ใช่สิ่งที่มาจากมนุษย์ หากแต่จันทร์เสี้ยวและดวงดาวในภาษาอาหรับที่เรียกว่า al qomarและ an najm นั้นถูกนำไปใช้ให้เป็นชื่อซูเราะฮฺหนึ่งของพระคัมภีร์อัลกุรอาน และความหมายมันคือดวงจันทร์และดวงดาวที่มากด้วยฮิกมะฮฺที่สามารถเก็บไว้เป็นบทเรียนแก่บรรดามนุษย์ทั้งหลาย

ดวงจันทร์และดวงดาวเป็นของเอกองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) แน่นอนว่า สมัยก่อนนั้นเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่ไม่มีใครสามารถไปถึงที่นั่นได้ มันแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเอกองค์อัลลอฮฺที่เป็นผู้สร้างจักรวาลรวมถึงดวงจันทร์และดาว

ไม่เพียงแค่นั้นสิ่งดังกล่าวนี้ก็ยังถูกกล่าวในซูเราะฮฺอัล-บากอเราะฮฺ อายัตที่ 189 ที่มีความว่า “จันทร์เสี้ยว คือ สัญลักษณ์ของการกำหนดเวลาต่างๆ สำหรับมนุษย์ และสำหรับประกอบพิธีฮัจญ์,… “

2. ไม่ใช่ข้อปฏิบัติทางศาสนา แต่มากด้วยสิ่งที่ดี

 

 

 

การที่ดวงจันทร์และดวงดาวเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลามนั้น ไม่ได้แปลว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของหลักชาริอะฮฺอิสลาม ไม่มีแหล่งที่มาหรือหลักฐานที่เกี่ยวกับข้อบังคับให้ใช้สัญลักษณ์ดังกล่าว เช่นเดียวกันกับสัญลักษณ์ของคำกล่าวชาฮาดะฮฺ และ พระนามของอัลลอฮฺ.

แต่สัญลักษณ์ดวงจันทร์และดาวที่นำมาใช้นั้นคือผลจากการเดินทางอารยธรรมอิสลามที่ยาวนาน สัญลักษณ์นี้จึงกลายเป็นความยิ่งใหญ่และกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของท่านคอลีฟะฮฺอิสลามตั้งแต่สมัยอาณาจักรอุษมานียะฮฺตุรกี ออตโตมัน

สถานที่แรกที่ใช้สัญลักษณ์นี้คือ สถาบันทางการเมืองและการเมืองเป็นหนึ่งกิจกรรมการดำเนินชีวิต(มุอามาละฮฺ)ในศาสนาอิสลามซึ่งก็หมายความว่าไม่มีข้อห้ามในการใช้สัญลักษณ์ของดวงจันทร์และดวงดาว อีกอย่างก็ไม่มีหลักฐานโดยตรงที่ห้ามนำมาใช้

และแน่นอนความแพร่หลายของสัญลักษณ์ดวงจันทร์และดวงดาวนี้เป็นสิ่งที่ให้เกิดประโยชน์มากมาย สิ่งสำคัญคือ เห็นถึงความสามัคคีกันและความเป็นเอกลักษณ์ของชาวมุสลิม

3. อีกหนึ่งปรัชญาที่มีความหมายลึกซึ้ง

 

 

หลังจากได้รับการใช้อย่างแพร่หลายเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอิสลาม จนหลายต่อหลายคนพากันตีความถึงปรัชญาที่มาจากสัญลักษณ์ของจันทร์เสี้ยวและดวงดาว ซึ่งจริงๆ แล้วปรัชญาเดิมนั้น มาจากการคิดค้นของสุลต่านมูฮัมหมัด II  Al Fatih (บางตำราระบุว่าเป็นพ่อของเขา)

โดยที่จันทร์เสี้ยวจะเป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ตำแหน่ง 3 ทวีปที่อยู่ภายใต้การปกครองโดยศาสนาอิสลาม ซึ่งปลายด้านหนึ่งแสดงถึงทวีปเอเชียที่อยู่ทางภาคตะวันออก ส่วนอีกปลายด้านหนึ่งจะเป็นตัวแทนของทวีปแอฟริกาที่อยู่ในส่วนอื่นๆ และในส่วนกลางคือทวีปยุโรป

ในขณะที่สัญลักษณ์ของดวงดาวบ่งบอกถึงตำแหน่งของเมืองหลวง ต่อมาก็ได้มีการตั้งชื่ออิสตันบูลที่มีความหมายว่า: เมืองแห่งศาสนาอิสลาม

สำหรับการขยายความปรัชญาอื่นนั้นจันทร์เสี้ยวยังเป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายของการกำหนดเวลาจากการดูดวงจันทร์ใหม่ในศาสนาอิสลาม ซึ่งก็หมายความว่าชาวมุสลิมจำเป็นต้องทำสิ่งใหม่ให้ดีกว่าเดิม

ในขณะที่ดาวห้าแฉกนั้น เป็นสัญลักษณ์ของพื้นฐานการปฏิบัติในศาสนาอิสลาม(รูกุ่นอิสลาม) ซึ่งจะมีอยู่ 5  ประการด้วยกัน ได้แก่

1. การปฏิญาณตน คือ การแสดงความจงรักภักดีต่อพระเจ้าองค์เดียว

2. การละหมาด คือการแสดงความเคารพ

3. การถือศีลอด คือ การเรียนรู้ความอดกลั้นต่อความลำบากในเดือนรอมฎอน

4. การบริจาคซะกาต คือ การเสียสละทรัพย์สิน ร้อยละ 2.5 ให้กับผู้ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ

5. กาประกอบพิธีฮัจญ์ คือ การเดินทางไปจาริกแสวงบุญที่นครเมกกะห์

4.นักวิชาการส่วนใหญ่จะไม่คัดค้านหรือบอกว่ามันคือสิ่งที่ผิดหลักการ

 

 

อุลามะ(นักวิชาการ)สมัยก่อนไม่มีใครเคยกล่าวหาว่าการใช้สัญลักษณ์ของจันทร์เสี้ยวและดวงดาวนั้นคือสิ่งที่ผิดหลักการ หากแต่พวกเขาต่างหากคือผู้ที่ริเริ่มให้โดมมัสญิดมีจันทร์เสี้ยวและดวงดาว

จะมีก็เพียงแค่อุลามะ(นักวิชาการ) muta’akhir ยุคนี้เท่านั้น ที่ทำตามคำใส่ร้ายหรือสร้างฟิตนะห์ของคนตะวันตกซึ่งดวงจันทร์และดวงดาวสำหรับพวกเขาแล้ว มาจากคำสอนของศาสนาที่บูชาเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์และดวงดาว

5.ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจกับยุคทองของศาสนาอิสลาม

 

 

แม้ว่าระบบคอลีฟะฮฺในสมัยอาณาจักรอุษมานียะฮฺ(ออตโตมัน)ได้สิ้นสุดลงแล้วแต่สัญลักษณ์ดวงจันทร์ดวงดาวก็ยังคงมีความหมายกับคนตุรกีเหมือนได้ฝังลึกในวัฒนธรรมของชาวมุสลิม.

อาณาจักรแห่งออตโตมันหรืออาณาจักรอุษมานียะฮ์ถือเป็นระบบคอลีฟะอฺหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ว่าได้ทำการครอบครองดินแดนและแผ่อิทธิพลอย่างแผ่ไพศาลครอบคลุมทั้งในทวีปเอเชียยุโรปและแอฟริกา ซึ่งความสำเร็จที่ไม่อาจลืมได้ก็คือการได้ยึดครองเมืองคอนสแตนติโนเปิลหรือเมืองอิสตันบูลที่เป็นหัวใจหลักของคนยุโรปในช่วงนั้น

มันเป็นอะไรเหมาะและเข้ากันได้ดีมากหากหลายๆประเทศที่มีประชากรมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ ณ.ตอนนี้ ได้ใช้ดวงจันทร์และดวงดาวเป็นสัญลักษณ์ของประเทศตัวเอง

ก่อนที่จะกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศนั้นดวงจันทร์และดวงดาวก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของมัสยิดแล้วทั้งๆที่เรารู้ว่าตำแหน่งมัสยิดนั้นสำคัญมากในศาสนาอิสลามมากกว่าประเทศ

6. เป็นความแตกต่างที่สามารถสามัคคีกันได้

 

 

อิสลามไม่ใช่ศาสนาที่ปิดกั้นในการคบหาสมาคมกับผู้คนทั่วโลก หากแต่อิสลามคือศาสนาที่ต้องสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนในศาสนาอื่นๆในสเปกตรัมของคำว่า ukhuwahinsaniyah(ความเป็นพี่น้องและมิตรภาพในหมู่คน)

ซึ่งในการคบหาสมาคมนั้น อัตลักษณ์ของความเป็นอิสลามควรมีความชัดเจน ไม่ควรเกิดการสับสนกัน นอกจากตัวตนของอัตลักษณ์ตัวเองแล้ว ตัวตนของสัญลักษณ์ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายที่สำคัญ

เพราะสัญลักษณ์ของดวงจันทร์และดวงดาวนั้นได้กลายเป็นสิ่งที่ได้รับการยึดมั่นตั้งแต่สมัยระบบคอลีฟะฮฺอาณาจักรองค์สุดท้ายในอิสลามแล้วจากนั้นดวงดาวและดวงจันทร์ก็ได้ถูกใช้ให้เป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม

เช่นเดียวกันในกรณีของชาวคริสเตียนกับไม้กางเขน ยิวกับดวงดาว 6 แฉก พุทธกับการพนมมือ แต่มีการบันทึกว่าสำหรับดวงจันทร์และดวงดาวแล้วไม่ได้เป็นสิ่งที่ต้องยึดเหนี่ยวเพราะที่มาของมันไม่ได้มาจากหลักคำสอนและมาจากคัมภีร์กุรอ่านและซุนนะฮฺ.

รูปจันทร์เสี้ยวนอกจากจะเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นแล้ว มันยังเป็นการรวมตัวของประเทศอิสลามหลายๆประเทศอีกด้วย เรารู้เพียงแค่ว่าในกรณีที่ไม่มีระบบคอลีฟะฮฺแล้ว มันอาจจะไม่มีอีกแล้วเครื่องมือที่จะสร้างให้เกิดความสามัคคีกัน

สิ่งนี้จึงถือว่าเป็นตัวแทนหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นศาสนาอิสลามเช่นดวงจันทร์, ดวงดาว, ดวงอาทิตย์และคำกล่าวซาฮาดะฮฺ(ปฏิญาณตน)

เราจะเห็นได้ว่า นอกจากประเทศมุสลิมที่ใช้สัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวและดวงดาวแล้ว ยังมีองค์กรหลายๆองค์กรที่ใช้สัญลักษณ์ดังกล่าว เช่น องค์การความร่วมมืออิสลาม(OIC) หน่วยงานด้านสุขภาพ(จันทร์เสี้ยวสีแดง)และมนุษยธรรมสำหรับชาวมุสลิม และอื่นๆ