อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงยืนยันการมาของท่านศาสดามูฮัมหมัดแก่ศาสดาอีซา โดยตรัสว่า
“และจงรำลึก เมื่ออีซา บุตร มัรยัม ได้กล่าวว่า โอ้วงศ์วานของอิสราเอลเอ๋ย แท้จริงฉันเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์มายังพวกท่าน โดยยืนยันสิ่งที่มีอยู่ในโตราห์ที่อยู่ต่อหน้าฉันนี้ และเป็นผู้แจ้งข่าวดีถึงศาสนทูตท่านหนึ่งที่จะมาภายหลังฉัน ชื่อของเขาคือ “อะฮ์หมัด” ครั้นเมื่อเขา (อะฮ์หมัด) ได้มายังพวกท่านพร้อมด้วยหลักฐานอันชัดแจ้งแล้ว พวกท่านกล่าวว่านี่คือมายากลอย่างแน่นอน” (อัศศ็อฟ : 6)
และในคัมภีร์โตราห์ภาษาฮิบรูในบทที่ 3 จากพระธรรมฮาบากโก้ก “และแผ่นดินได้เติมไปด้วยการกล่าวสรรเสริญอะห์หมัด ต้นคอของประชาชาติต่างๆได้ถูกปกครองด้วยมือขวาของเขา”
และในต้นฉบับของโตราห์เดิมที่ถูกตีพิมพ์ในลอนดอนประจำปี 1848 และฉบับที่ถูกตีพิมพ์ในนครเบรุตประจำปี 1884 โดยที่ต้นฉบับเดิมจะถูกพบในพระธรรมของฮาบากโก้กตัวบทที่ชัดเจนว่า “แท้จริงฟากฟ้าได้ส่องสว่างเนื่องจากความสว่างไสวของมูฮัมหมัด และแผ่นดินได้เติมไปด้วยการสรรเสริญต่อเขา…”
และในคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับภาษาฮิบรูดั้งเดิมใน”เพลงของโซโลม่อน” 5: 16 ได้กล่าวว่า
“Hikko Manittadim Vikkulu Mahamadim Zahyudi Vezeur Raai Benute Yafus Halam”
“คำกล่าว(สอน)ของเขาหวาน(ไพเราะ)ที่สุด เขาคือ Mahamad เขาเป็นที่รักของข้า เขาคือเพื่อนของข้า โอ้ลูกหลานเยรูซาเล็ม ข้ารักเขามาก” (ไบเบิ้ล 5:16)
ชาวยิวยังร้องเพลงสวดนี้จนกระทั่งทุกวันนี้ โดยไม่ได้ตระหนักว่าพวกเขากำลังร้องอะไรอยู่
ทว่าในไบเบิ้ลฉบับภาษาอื่นๆ ได้เปลี่ยนประโยคให้เป็น “He is altogether lovely” ซึ่งคำดั้งเดิมคือ Muhamadim โดยถูกมาแทนที่ด้วย “altogether lovely”
Cr.หนังสือ “อิสลามทำไม?” หน้า 181
#beritamuslim #beritamuslimlife #ข่าวสารมุสลิม #นิตยสารมุสลิม #อัลกุรอาน#ไบเบิ้ล#การมาของศาสนทูต#