ทำไมมุสลิมห้ามกินหมู

โพสเมื่อ : 2017-01-16 8:50 น. หมวดหมู่: Life

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

การดำรงชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ยากสำหรับใครบางคน แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปหากเราอยู่ด้วยความเข้าใจกันเป็นหลัก ซึ่งต่อไปนี้เบอรีตามุสลิม Berita muslim ขอยิบยกเหตุผลต่างๆเพื่อความเข้าใจความเป็นพี่น้องมุสลิมในการห้ามกินหมูมาฝากค่ะ

สิ่งฮารอม (สิ่งต้องห้ามเด็ดขาด) คนมุสลิมจะไม่ขัดกับหลักการและพร้อมให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แน่นอนมุสลิมผู้ศรัทธาจะไม่รับประทานหมูเด็ดขาดตามหลักคำสอน ดังอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลบากอเราะฮฺ อายัตที่ 173 ที่ว่า…..

“ที่จริงพระองค์ทรงห้ามพวกเจ้านั้นเพียงแต่สัตว์ที่ตายและเลือด ( เลือดที่ไหลออกขณะเชือดส่วนเลือดที่อยู่ในเนื้อนั้นไม่เป็นที่ต้องห้าม) และเนื้อสุกร (หมายถึงทุกส่วนที่อยู่ในมันด้วย) และสัตว์ที่ถูกเปล่งเสียงที่มัน เพื่ออื่นจากอัลลอฮฺ (คือเปล่งเสียงกล่าวนามสิ่งที่เขาเชือดเพื่อสิ่งนั้น อื่นจากอัลลอฮฺ) และผู้ใดได้รับความคับขัน (อยู่ในภาวะคับขัน ไม่สามารถจะหาอาหารอื่นเพื่อประทังชีวิตได้นอกจากเนื้อสุกร) โดยมิใช่ผู้เสาะแสวงหา (มิใช่สร้างสถานการณ์ให้คับขันเพื่อต้องการบริโภค) และมิใช่เป็นผู้ละเมิดขอบเขตแล้วไซร้(เมื่อบริโภคแล้วพอบริโภคประทั้งชีวิต มิใช่ถือโอกาสสวาปามจนเกินความจำเป็น) ก็มีบาปใดๆ แก่เขา แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตา” และเพิ่มเติมจากอัลกุรอานซูเราะฮฺอันนะหฺฮฺ อายัตที่ 115 และยังมีฮาดิษต่างๆอีกที่ได้สมทบการห้ามกินหมูเช่น ฮาดิษของ Ibnu Katsir rahimahullah เป็นต้น ซึ่งการห้ามกินหมูมีหลักฐานยืนยันอย่างแน่นหนามาก และแน่นอนต้องมีเหตุอย่างมาก

    แต่ความจริงแล้วการห้ามกินหมูไม่เพียงแค่คนมุสลิมเท่านั้นแต่รวมไปถึง ยิว,คริสเตียน, Kong Hu Cu (ลัทธิของขงจื๊อ),  ฮินดู เป็นต้น ก็ยังมีการห้ามในการกินหมูเช่นกัน (1) 

    ด้วยเหตุดังกล่าวมุสลิมยังเชื่ออีกว่า สิ่งที่อัลลอฮฺทรงห้ามย่อมมีผลดีต่อชีวิตอย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันได้มีการวิจัยได้ออกมายืนยันแล้วในหลายๆ บทด้วยกัน เช่น การวิจัยของ Dr. Lelya Hilda, M.Si จากมหาวิทยาลัย USU Medan 

1.    เนื้อหมูจะมีกลิ่นเหม็นจากการวิจัยของสาเหตุเพราะมีการรั่วของปัสสาวะที่ซึมเข้าไปในเนื้อหมูจึงทำให้เนื้อหมูมีกลิ่นของปัสสาวะ

2.    หมูจัดได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่กินได้โลภมาก และกินทุกอย่างที่ขวางหน้า หากแต่เมื่ออาหารที่กินหมดไปก็จะอาเจียนออกมาเพื่อให้ได้กินอยู่เรื่อยๆ แม้กระทั้งอุจจาระของตัวเองหรือจากสัตว์อื่นๆก็จะไม่เว้น ซึ่งสัตว์ชนิดนี้มีความง่ายในการที่จะปัสสาวะแม้กระทั้งของกินอยู่ตรงหน้าก็ตาม

3.    เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่กินดินและเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ชอบกินอาหารในปริมารที่มากในระยะเวลาที่นานจนกว่าจะให้หยุดกิน 

4.    หมูเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่่เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีลำคอที่ค่อนข้างเสมอกับลำตัว และแน่นอนเป็นการยากแก่การเชือดซึ่งไม่เหมือนสัตว์ชนิดอื่นที่เลี้ยงลูกด้วยนมที่อิสลามอนุญาติให้กินได้เช่น วัว แพะ แกะ อูฐ เป็นต้น

5.    ในเนื้อหมูจะมีพยาธิบางชนิดที่เป็นอันตราย อาจจะเป็นเพราะสาเหตุความเป็นหมูที่สกปรก ซึ่งนอกจากนี้ในเนื้อหมูจะมีปรสิตและพยาธิดังเช่น 

พยาธิที่ชื่อ

1. Taenia Sollum

2. Trichinia Spiralis

3. Schistosoma Japonicus :

4. Fasciolepsis Buski

5. Cacing Ascaris

6. Cacing Anklestoma

7. Cacing Paragonimus

8. Swine Erysipelas

    ซึ่งมีสารชนิดหนึ่งที่อยู่ในเนื้อจำพวกหมูยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าต้องได้รับความร้อนที่เท่าไหร่ถึงจะสามารถเผ่าพยาธิหรือสารที่อยู่ในเนื้อหมูได้ ในทางกลับกันการนำเนื้อสัตว์บางชนิดมาทำเป็นอาหารต้องได้รับความร้อนที่เหมาะสม ไม่รับความร้อนในเวลานานเกินไปหรือน้อยเกินไป พยาธิก็สามารถตายได้  จากการวิจัยเพิ่มเติมก็ยังบอกอีกว่า หากทำการเปรียบเทียบอาหารสองประเภท มาทำเป็นอาหาร เช่น เนื้อแพะจะใช้ความร้อนประมาร 3 ชั่วโมง แต่สำหรับเนื้อหมูแล้วต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมงเนื้อถึงจะสุกได้ แต่อย่างไรก็ตาม พยาธิที่อยู่ในเนื้อหมูก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าต้องได้รับความร้อนที่เท่าไหร่ถึงจะสามารถฆ่าพยาธิให้ตายได้แม้เนื้อหมูจะสุกแล้วก็ตาม 

    ในทางกลับกันสำหรับต่างศาสนิกที่ได้รับประทานหมูก็ไม่ได้ขัดค้านแต่อย่างใด แต่ในบทความนี้เพียงแค่ต้องการให้เข้าใจในเหตุผลหลักการของความเป็นมุสลิมที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากต่างศาสนิกได้เปิดใจและยอมรับพร้อมด้วยเข้าใจในเหตุผลของเราจะยินดีมากเช่นกัน นอกจากนี้หากเมื่อร่างกายได้สัมผัสกับสิ่งนาญิส (สิ่งสกปรก) สุนัขหรือหมูเราต้องทำการล้างด้วยน้ำถึงเจ็ดครั้งด้วยกัน และหากร่างกายได้รับสารอาหารชนิดนี้เป็นจำนวนมากและสะสมเป็นเวลานานก็จะเป็นโรคต่างๆได้ แต่จะไม่ได้เห็นผลในระยะสั้นแต่จะเห็นในระยะยาว (2) 

    บางครั้งมุสลิมพอเวลาเห็นหมูอาจทำสีหน้าออกมาหรือจะทำตัวห่างออกไป ไม่ใช่เรารังเกียจผู้ที่รับประทานแต่อย่างใด เราเพียงแค่ต้องห่างไกลกลัวจะกระเด็นและถูกตัวซึ่งต้องทำการล้างกับน้ำถึงเจ็ดครั้งด้วยกัน ซึ่งไม่ใช่การล้างที่ธรรมดาทั่วไป สิ่งนาญิส (สิ่งสกปรก) เหล่านี้ถึงจะหายไป ฉะนั้นเราจึงต้องระวังเป็นพิเศษ

    “หากถามผู้ที่เคยสัมผัสการกินหมูเราจะได้คำอธิบายว่า ในเนื้อหมูจะมีความหนึบและอร่อยที่ไม่เหมือนกับเนื้ออื่นๆ และจะมีความกลมกล่อมภายในเนื้อของมันเอง ซึ่งเรียกได้ว่าอร่อยมาก” จะอย่างไรก็ตามความเป็นมุสลิมของเราก็จะยืนหยัดในหลักคำสอนตลอดไป แม้ว่าจะไม่มีวันสัมผัสในจุดๆนั้นก็ตาม แต่ในทางกลับกัน  เรามุสลิมก็ขอเชื่อว่า “ความหนึบและอร่อยนั้นคือหนึ่งในสารชนิดหนึ่งในเนื้อหมูที่อัลลอฮฺทรงห้ามก็แล้วกัน”

ที่กล่าวมาก็เป็นเพียงแค่เหตุผลบางส่วนที่มุสลิมห้ามกินหมูและสนับสนุนให้กินอาหารที่ฮาลาลพร้อมด้วยมีประโยชน์ และหวังว่าบทความนี้สามารถตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ถามว่า “ทำไมอิสลามห้ามกินหมู” และที่สำคัญขอให้รู้ไว้ว่า เหตุผลของคนหนึ่งคนอาจจะไม่ใช่เหตุผลของอีกหลายๆคน…เรามุสลิมขอเดินตามทางของอัลกุรอานและฮาดิษตลอดไป…

แนะนำอ่าน

ละหมาด..หนึ่งสิ่งที่ทำให้คนทั้งโลกควรอิจฉามุสลิม

เรียบเรียงโดย Fateemoh ; Berita muslim

อ้างอิงข้อมูลของ Dr. Lelya Hilda, M.Si ในหัวข้อวิจัย PANDANGAN SAINS TERHADAP HARAMNYA LEMAK BABI (มุมมองทางวิทยาศาสตร์ในการห้าม (หารอม) ไขมันหมู) 

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมภาษามาเล clik (1) , clik (2) , clik (3) , clik (4) 

รูปประกอบโดย arrahmah.com, ciricara.com, suara-islam.com, rumahkeluargaindonesia.com

บทความล่าสุด

จงยึดมั่นในอัลลอฮฺเท่านั้น

ปัจจุบันสื่อต่างๆพยายามสร้างกระแสแห่งความเชื่อในเรื่องเครื่องรางของขลัง ดวงชะตา...

2022-12-15 16:36
การศรัทธาต่อวันกิยามะฮ์

วันกิยามะฮ์คือ วันสิ้นสุดของโลกนี้ เป็นวันที่เปิดบัญชีตรวจสอบความดีความชั่วของมน...

2022-12-15 16:28
การสร้างความเข้าใจต่อกัน

การอยู่ร่วมกันในสังคมและองค์กร จะต้องเริ่มต้นด้วยความเข้าใจ เช่น สังคมครอบครัว ส...

2022-12-15 16:20
ปาล์ม เพื่อเศรษฐกิจมากด้วยประโยชน์ ทำเงินให้เกษตรกร

ปาล์มน้ำมันจัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่ให้ผลผลิตน้ำมันต่อหน่วยพื้นที่สูงมาก มีลักษณะลำต...

2022-12-15 11:49