เมื่อ 1,400 กว่าปีที่แล้วท่านนบีมูฮำหมัด (ซ.ล.)ได้พูดถึงอันตรายของความโกรธ และในปัจจุบันทางการแพทย์ก็ได้ค้นพบแล้วว่า ความโกรธเปรียบเสมือนแหล่งรวมของโรคต่างๆ ด้วยเหตุนี้ Berita Muslim (เบอรีตามุสลิมนิตยสารมุสลิมออนไลน์) ต้องการให้ทุกคนมีสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายที่ดี จึงขอเสนอเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ส่วนหนึ่งของความรู้สึกโกรธได้ประกอบอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและสถานการณ์ บางคนที่ไม่สามารถควบคุมความโกรธได้ อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวเองและคนรอบข้างเป็นอย่างมาก เนื่องจากช่วงที่เราโกรธเป็นช่วงเวลาที่ชัยฎอนง่ายในการยุยง ด้วยเหตุนี้ท่านนบีมูฮำหมัด(ซ.ล.) จึงสั่งให้เรารู้จักควบคุมความโกรธ เพราะความโกรธนั้นเปรียบเสมือนสิ่งชั่วร้าย
ตามฮาดิษของท่านนบีมูฮำหมัด(ซ.ล.) ได้กล่าวไว้ ความว่า “เมื่อเกิดความโกรธ ความโกรธนั้นจะรวบรวมความชั่วร้ายไว้ทั้งหมด” (รายงานโดย อะหมัด)
ด้วยเหตุนี้อิสลามจึงสั่งให้ระวังนิสัยชอบโกรธ เพราะมักจะเป็นภัยต่อมนุษย์มากกว่าให้คุณประโยชน์ การระงับความโกรธบางครั้งก็ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ ฉะนั้นผู้ที่สามารถยับยั้งตนและระงับความโกรธได้ จึงถือเป็นผู้ที่มีความเข้มแข็งอย่างแท้จริง
ตามฮาดิษของท่านนบีมูฮำหมัด(ซ.ล.) ได้กล่าวไว้ ความว่า “ผู้ที่แข็งแกร่งนั้น มิใช่ผู้ที่สามารถล้มคู่ต่อสู้ได้ แต่ผู้ที่แข็งแกร่งคือผู้ที่สามารถควบคุมตัวเองได้ในยามโกรธ” (รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม)
นอกจากนี้ทางการแพทย์ก็ได้ค้นพบแล้วว่า ความโกรธย่อมสงผลกระทบต่อสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายเป็นอย่างมาก คนที่โกรธส่วนใหญ่แล้วจะแบ่งอารมณ์โกรธออกได้ 2 แบบ
1. โกรธแบบแสดงอารมณ์ หน้าตาแดงก่ำ อารมณ์รุนแรง เสียงดัง หายใจแรง เรียกว่า โกรธจัด โกรธแบบนี้ พลังทางกลไกของตับจะพุ่งขึ้นด้านบนอย่างรุนแรง
2. โกรธแบบเก็บกด โกรธแบบไม่แสดงออก หรือเก็บกด โกรธนี้พลังไม่ถูกระบาย ทำให้พลังจะอุดตันที่ตับ
โรคที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายเนื่องจากความโกรธ
1. ความโกรธหรือขี้โมโห ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรควิตกกังวล
2. การระเบิดอารมณ์โกรธทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น ผู้อำนวยการศูนย์บำบัดด้านอารมณ์แห่งนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า ในช่วง 2 ชั่วโมงแรก ของการระเบิดอารมณ์โกรธ เราจะมีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
3. โกรธเมื่อใด เสี่ยงเกิดลิ่มเลือดอุดตันสมองเมื่อนั้น เพราะ 2 ชั่วโมงที่เดือดดาลนี้ อาจเกิดลิ่มเลือดขึ้นไปอุดตันที่สมองได้ อีกทั้งยังเสี่ยงเกิดเส้นเลือดในสมองแตกได้มากกว่าเวลาปกติถึง 6 เท่า
4.ความโกรธจะทำให้เราคิดในแง่ลบ และคิดในแง่ร้ายต่อคนอื่น ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อการทำงานของปอดแย่ลง และเสี่ยงต่อการมีปัญหาติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่าย
5. ความโกรธจะทำให้ส่งผลต่อความผิดปกติของประจำเดือน
เนื่องจากระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง จัดว่าเป็นระบบอ่อนแอที่สุดของร่างกาย หากมีปัจจัยก่อโรคต่าง ๆ เช่น ความเย็น ความอ่อนล้า ความเครียด ความเจ็บป่วยเรื้อรัง ฯลฯ จะทำให้เกิดความผิดปกติของประจำเดือน ด้วยเหตุนี้จะทำให้ เส้นลมปราณตับติดขัด มีผลทำให้ประจำเดือนมาไม่ตรงตามกำหนด ปวดประจำเดือน คัดหน้าอก (เกิดก้อนที่เต้านม) มีก้อนที่มดลูก ถ้าเกิดสะสมพลังอุดกั้นนาน ๆ จะเกิดไฟ ทำให้ประจำเดือนมีเลือดออกมากผิดปกติ
6. ความโกรธก็สามารถส่งผลกระทบต่อม้ามจึงทำให้ท้องเสีย
บางครั้งการโกรธมาก ๆ ต่อมาจะมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย ลำไส้อ่อนไหวง่ายต่อการถูกกระตุ้นทางอารมณ์ คนที่ท้องเสียบ่อย ๆ เวลามีอารมณ์โกรธ ต้องควบคุมรักษาทางจิตอารมณ์ด้วย และการโกรธที่มากเกินไป บางครั้งจะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ควบคุมสติไม่ได้ ไม่อยู่กับโลกความเป็นจริง เป็นเพราะตับถูกกระทบกระเทือนมากเกินไป
สรุปได้ว่า เมื่อเป็นสิ่งที่ท่านนบีห้ามย่อมส่งผลกระทบต่อตัวเราและคนรอบข้างเป็นอย่างมาก ฉะนั้นเราควรรู้จักระงับอารมร์โกรธและปล่อยวาง เพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่ดีออกไปนะคะ อินชาอัลลอฮฺเราจะเป็นคนที่ซอบัร (อดทน) มากขึ้น
แนะนำอ่านต่อเพิ่มเติม
วิธีกำจัดความโกรธที่ท่านนบีแนะนำ
เรียบเรียงโดย Fateemoh : Beritamuslimmag.com