เมื่อเอ๋ยถึงสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “ไอโอดีน” เชื่อแน่ว่าใครหลายคนจะนึกถึง “โรคคอพอก” ซึ่งเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เกิดกับผู้ที่ขาดสารไอโอดีน แต่น้อยคนนักจะนึกไปถึงว่าการขาดสารไอโอดีนนั้นยังส่งผลต่อการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับสติปัญญาหรือไอคิวของเด็ก
ไอโอดีน เป็นธาตุที่เกิดในธรรมชาติ มีมากในสัตว์และพืชในทะเล แม้ว่าตลอดชีวิตของมนุษย์เราจะต้องการสารไอโอดีนไม่ถึง 1 ช้อนชา แต่สารนี้ก็นับเป็นสิ่งที่ร่างกายเราจะขาดไม่ได้ และต้องมีการบริโภคอย่างสม่ำเสมอเพราะสารไอโอดีนจะไม่สะสมในร่างกาย โดยอาการขาดไอโอดีนจะแสดงตามช่วงอายุต่างๆ คือ
ทารกในครรภ์ ถ้าขาดไอโอดีน จะทำให้ลูกในท้องแท้ง อัตราการตายของแม่ในการคลอดสูง ถ้าลูกรอดมาได้ก็อาจมีอาการทางประสาทและสมองที่เรียกว่า โรคเอ๋อ
ทารกแรกเกิด ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
เด็กและวัยรุ่น เจริญเติบโตช้าทั้งทางร่างกายและสมอง
ผู้ใหญ่ คอพอก สติปัญญาและสมรรถภาพทางร่างกายเสื่อมถอย
ซึ่งปัจจุบันพบว่า แม้ประเทศไทยเราจะมีการรณรงค์เกี่ยวกับไอโอดีนมาอย่างยาวนาน แต่อัตราผู้ป่วยเนื่องจากขาดสารไอโอดีนก็ยังคงอยู่ในปริมาณที่น่าตกใจ แถมยังไปสอดคล้องในทางเดียวกันกับไอคิวเฉลี่ยของเด็กไทยที่ต่ำลง หน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาเหล่านี้จึงหันมาใส่ใจรณรงค์ให้ประชาชนบริโภคอาหารที่มีสารไอโอดีนอย่างสม่ำเสมอ แล้วเราจะได้รับสารไอโอดีนจาการบริโภคอาหารใดได้บ้าง ???
อาหารทะเลได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมของไอโอดีนจากธรรมชาติ แม้ว่าปัจจุบันปริมาณไอโอดีนธรรมชาติจากแหล่งนี้จะเริ่มลดลงก็ตาม
อาหารที่ระบุว่า “มีส่วนผสมของไอโอดีน” เช่น เกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรส อาหารสำเร็จรูป ฯลฯ นับเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ทดแทนไอโอดีนจากธรรมชาติได้ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องมีส่วนผสมของไอโอดีน
นับแต่นี้ มาดูแลเด็กๆ ของเราให้ได้รับไอโอดีนกันเถิด เริ่มตั้งแต่ในท้องกันเลย แค่ให้เขาได้บริโภคที่มีสารไอโอดีนข้างต้นอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น
ว่าแล้วเราก็เริ่มมองเห็นอนาคตสดใสในวันข้างหน้าว่า เด็กไทยรุ่นใหม่จะมีไอคิวโดดเด่นเป็นความหวังของประเทศชาติต่อไป