เราจะเห็นได้ว่าผู้มีปัญญาไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดหรือนับถือศาสนาอะไรเมื่อได้อ่านคัมภีร์อัลกุรอานแล้วย่อมทราบซึ้งกับอัลกุรอานอย่างแน่นอน ท้ายสุดก็ประกาศยอมรับว่าอิสลามคือวิถีชีวิตของเขา และในหลายๆ ครั้งที่อัลกุรอานถูกอ้างขึ้นในสหประชาชาติ การประชุมระหว่างประเทศหรือในรัฐสภาของประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม ย่อมแสดงให้เห็นว่าหลักการของพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวกันนั้นเป็นที่ยอมรับ
แต่ในขณะที่มุสลิมเองกลับมีความประพฤติหรือตีความสวนทางกับบทบัญญัติของพระเจ้า แค่เรื่องพระผู้เป็นเจ้าทรงกำชับไม่ให้มีความแตกแยกกัน 3/103, 6/153 เรื่องนี้เรื่องเดียวพี่น้องมุสลิมก็ไม่สามารถยึดถือปฏิบัติได้ ปัญหาของมุสลิมมีอยู่สามเรื่องคือ ปัญหาการตีความ การมีอคติและความใจแคบ หากเราพิจารณาจากอัลกุรอานแล้ว บางเรื่องก็ชัดเจนไม่ต้องตีความ แต่ก็ยังมีผู้ที่มีจิตใจที่คับแคบอีก ทั้งมีอคติตีความให้ผิดเพี้ยนไปจากเจตนารมณ์ของอัลกุรอาน เช่น การกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มุสลิม หรือไม่ก็กล่าวหาว่าอีกฝ่ายหลงผิดต้องเข้านรก ฯลฯ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก พี่น้องมุสลิมมักจะตีความเข้าข้างตัวเองว่าตัวเองถูก อีกฝ่ายผิดบนความมีอคติและใจแคบ มุ่งแต่จะสร้างปัญหาให้กับสังคมอย่างรุนแรง กลายเป็นความบาดหมาง กลายเป็นศัตรูต่อกัน นำไปสู่ความแตกแยกและนำไปสู่ความรุนแรงทางสังคม อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
“หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกส่งตัวกลับคืนสู่อัลลอฮฺ ผู้ทรงคุ้มครองพวกเขาอย่างแท้จริง พึงทราบเถิดการตัดสินเป็นเอกสิทธิ์ของพระองค์ และพระองค์ทรงรีบด่วนที่สุดจากบรรดาผู้สอบสวนทั้งหลาย” 6/62
โปรดสังเกต อายะฮฺที่กล่าว่า “……พึงทราบเถิดการตัดสินเป็นเอกสิทธิ์ของพระองค์……”
ปัญหาของพี่น้องมุสลิมอยู่ที่ว่าจะทราบหรือไม่ หรือทราบแล้วแต่ก็ยังจะทำ สังคมมุสลิมบอบช้ำมามากพอแล้ว อย่าได้สร้างความแตกแยกและความแตกต่างกันอีกเลย ขอให้ถือว่าการยึดมั่นถือมั่นในแนวทางของแต่ละท่านนั้นเป็นการที่จะขัดเกลากิเลสตัณหาของตนเอง มิใช่ยึดมั่นถือมั่นเพราะเชื่อว่าสิ่งที่ตนเองเชื่อถืออยู่นั้นของแท้ ของดั้งเดิม วิเศษบริสุทธิ์กว่าแนวทางของคนอื่น การยึดมั่นถือมั่นในกรณีนี้มีแต่เป็นโทษเพราะเป็นการเพิ่มมานะทิฐิของตนเอง พร้อมกันนั้นเป็นการดูถูกผู้อื่น และทำลายโอกาสที่ตนจะแสวงหาความรู้เพิ่มเติมและพัฒนาตนเองไปอย่างน่าเสียดาย
“ผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงทำให้เขาหลงผิด แน่นอนจะไม่มีผู้ใดชี้นำเขาได้ และพระองค์ทรงปล่อยพวกเขาไว้ให้งงงันอยู่ในความหลงผิดของพวกเขาต่อไป” 7/186, 18/17
“…….และเจ้าทั้งหลายอย่ากล่าวแก่บุคคลที่ให้สลามแก่พวกเจ้าว่า “ท่านหาใช่ผู้ศรัทธาไม่” เพื่อมุ่งหวังผลประโยชน์ทางโลกนี้………”4/94
23/9/59 โดยอิหม่ามสมชาย แพจิตต์ (มัสยิดเนียมะตุลอิสลาม มักกะสัน)
#beritamuslim #beritamuslimlife #ข่าวสารมุสลิม #นิตยสารมุสลิม # 3 เรื่องที่เป็นปัญหาของมุสลิม