ถ้าให้ลองนึกถึงเนื้อวัวคุณภาพสูงและราคาจับต้องได้ เราจะนึกถึงใคร แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ “สินธร” ติดอยู่ใน Top of mind ของใครหลายคนแน่นอน ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และหาซื้อง่ายใกล้บ้าน ทำให้ใครต่อใครล้วนติดอกติดใจเมื่อได้ลิ้มลอง
และในการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนี้ เรามีโอกาสนั่งคุยกับผู้บริหารรุ่นใหม่ “นก บินซอและห์” ถึงที่มาที่ไปของธุรกิจที่เขามารับช่วงต่อจากคุณพ่อ ภายในร้าน “สินธรสเต็กเฮาส์” ที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตาหรูหรา เหมือนได้มานั่งอยู่ในคฤหาสน์อย่างไรอย่างนั้น
คุณนกเริ่มต้นเล่าชีวิตในช่วงวัยรุ่นให้เราฟัง ตั้งแต่สมัยเรียน โลจิสติกส์ ที่มหาวิทยลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ก็เริ่มออกหาเงินเอง เพราะไม่อยากรบกวนที่บ้าน ขายของเก่า ขายนาฬิกา มีกำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ออกหาประสบการณ์ชีวิต เรียนรู้ธุรกิจด้วยตัวเอง ก่อนมาจับงานใหญ่รับช่วงต่อธุรกิจจากคุณพ่อ
สินธรแต่เดิมนั้น เคยเป็นธุรกิจร้านขายเนื้อแผงลอยเล็ก ๆ ในตลาดบางกะปิ ก่อนขยับขยายตามลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น บวกกับความชอบในการทำอาหารของคุณแม่ จนได้มาเปิด “สินธรสเต็กเฮาส์” สาขาแรกที่ย่านศูนย์การค้าแฮปปี้แลนด์
ปัจจุบันสินธรมีสินค้าและบริการทั้งหมด 3 ด้าน คือ “สินธรมีทซัพพลาย” เป็นหัวใจหลักสำหรับส่งเนื้อให้ตามร้านอาหารญี่ปุ่นดัง ๆ ตามห้างสรรพสินค้า “สินธรสเต็กเฮาส์” มี 2 สาขา เป็น ภัตตาคารอาหาร บุฟเฟต์ มีสถานที่ให้บริการจัดงานเลี้ยง งานแต่ง งานสัมมนา แล้วสุดท้ายคือ “สินธร Foodmart” ที่จะเอาเนื้อจาก สินธรมีทซัพพลาย มาขายในร้าน มีทั้งเนื้อไทย เนื้อนอก เนื้อสด เนื้อสไลด์ เนื้อหมัก
ฮาลาลคือความได้เปรียบ ในแง่ธุรกิจ คุณนกไม่ได้มองกลุ่มลูกค้าจำกัดอยู่แค่มุสลิมเท่านั้น แต่มาตรฐานของคำว่า “ฮาลาล” นั้นครอบคลุมในทุกด้าน ทั้งรสชาติ ราคา และการบริการ ทำให้ลูกค้าทุกคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร สามารถเข้าได้หมด
แต่ทุกธุรกิจย่อมมีอุปสรรค ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 สินธรเองก็เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติครั้งนี้
“เราเจ็บหนักเลย ร้านอาหารขายไม่ได้ แต่ผมมองหาข้อดีของมัน Food Mart เรายังขายได้ เพราะคนซื้อเนื้อกลับไปทานที่บ้าน ยอดจาก Foodmart ขึ้นมา 300 % เราก็ยังมีตรงนี้ประคอง พนักงาน 50 คน เราจ้างเป็นรายวัน ผลัดกันมาทำงาน เดินกันคนละครึ่งทางไปด้วยกัน ในยามที่ลำบากเราอย่าทอดทิ้งเขา แต่เขาก็ต้องไม่ทิ้งเราด้วย”
ระหว่างที่เรานั่งอยู่กับคุณนก สิ่งหนึ่งที่เราประทับใจจากบทสนทนาครั้งนี้คือ คุณนกไม่ได้พูดถึงกลยุทธ์ที่เฉียบขาด หรือมาร์เก็ตติ้งแพลนที่แหวกเหนือเมฆ แต่หนึ่งเรื่องที่คุณนกย้ำ ถึงสิ่งที่ทำให้สินธรประสบความสำเร็จคือ คือการทำบุญ เป็นการให้ที่ไม่ขาดทุน
“ผมทำบุญไปด้วย ขายของไปด้วย ได้ริสกีทุกวันนี้มา ทำบุญไม่เคยขาด ผมลงทุนไปเท่าไหร่ ได้กลับคืนมาเท่าตัว เพราะอะไร เพราะผมทำบุญ ให้ไปเรื่อย ๆ มันเป็นการให้ที่ไม่ขาดทุน และสิ่งสำคัญที่สุดเลย เมื่อประสบความสำเร็จแล้วอย่าลืมมือล่าง อย่าลืมลูกน้องที่ทำงานให้กับเรา และเมื่อได้ทุกอย่างมาแล้ว อย่าลืมบริจาค สำคัญสุด ๆ เชื่อผม”
ริสกีเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดจากอัลลอฮฺ ยิ่งได้มามาก อมานะฮฺและบททดสอบที่ตามมายิ่งต้องสูงตามไปด้วย หากเราไม่ลืมขอบคุณและแบ่งปัน มั่นใจเถอะว่า อัลลอฮฺนั้นจะให้เรากลับมาเป็นทวีคูณ อินชาอัลลอฮฺ