คนสองคนที่มีรสนิยมเหมือนกัน พื้นฐานเหมือนกัน มีเจตนาในศาสนาเหมือนกัน ที่ว่า “ไม่ได้อยากรวย แต่อยากมีเงินไปทำงานศาสนาเพื่อได้รับบุญเยอะที่สุด” เขาทั้งสองได้มีโอกาสในการทำธุรกิจร้านอาหาร จนเติบโตเป็นอย่างมาก ร้านดังที่ใครหลายคนต่างรู้จักนั้นก็คือ “เนื้อแท้”
บังโต วีรชน ศรัทธายิ่ง อดีตนักร้อง วง Silly fools เขาได้เลิกเป็นศิลปินเพราะว่า เขาได้รู้ว่า ในหลักศาสนาอิสลามนั้นการฟังและเล่นดนตรีเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เขาได้หาคำตอบจากทุกๆศาสนา สุดท้ายก็มาจบที่ความเชื่อของอิสลามเพราะว่าไม่สามารถหาข้อบกพร่องได้
ในด้านของบังตาล นภศูล รามบุตร อดีตพนักงานธนาคาร ซึ่งได้ทำงานนานประมาณ 15-20 หลังจากได้ไปทำฮัจญฺ ครั้งนั้นเขาได้เริ่มอ่านคัมภีร์อัลกุรอาน จนได้รู้ว่าการที่ได้ยุ่งเกี่ยวกับดอกเบี้ยนั้นในหลักอิสลามคือบาป หลังจากได้รับการสะกิดใจ 2-3 ปีก็ได้ลาออกจากงาน โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำอะไรต่อ แต่ที่รู้ต้องเชื่อมั่นว่าพระองค์จะนำทางให้เราไปทำอะไรต่อไปข้างหน้า
การเจอกันของโต-ตาล
บังตาลได้ไปเรียนภาษาอาหรับกับเพื่อนคนหนึ่ง แล้วเพื่อนคนนั้นก็รู้จักกับบังโตจึงได้ชวนบังโตมาเรียนด้วยกัน โต-ตาลจึงได้เจอกันครั้งแรกในตอนนั้น หลังจากที่ได้รู้จักกันบังตาลก็ได้เชิญบังโตไปบรรยายในงานมัสยิดบางอ้อ จากนั้นทั้งสองก็ได้รู้จักและพูดคุยกันมากขึ้น หลังจากนั้นพอบังโตได้รู้ว่าบังตาลจะลาออกจากที่ทำงานเก่า บังก็ได้ชวนไปทำรายการที่ White channel วันนั้นทำให้เกิดรายการโตตาลขึ้น ที่ White channel
ทั้งบังโตและบังตาลหันหลังให้กับอาชีพเดิม สิ่งที่เหมือนกันตอนที่เริ่มทำบริษัทคือต่างคนต่างไม่มีอาชีพ ทั้งสองก็ได้ตามหาอาชีพสักอย่างเพื่อทำมัน เผอิญว่าบังตาลได้รับโอกาส มีคนติดต่อมาว่ามีชาวต่างชาติอยากทำเนื้อดรายเอจ Dry aged ซึ่งบังตาลเองก็รู้ว่าบังโตเป็นคนที่ชอบกินเนื้อมากๆ ก็เลยได้ชวนบังโตเข้ามาทำร่วมกัน นั่นเป็นจุดกำเนิดของเนื้อแท้
“ตอนโตหันหลังให้กับอาชีพเดิม โตก็มั่นใจว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วอัลลอฮฺจะตอบแทนให้ ผมเองก็มั่นใจ ในที่สุดก็ต้องทำอะไรสักอย่าง” นภศูล รามบุตร
เรื่องของการบริหารธุรกิจ
บังตาลจะได้รับหน้าที่ดูแลในเรื่องของเงิน เรื่องของบัญชีทั้งหมด เพราะว่าบังโตไม่เก่งในเรื่องของตัวเลข บังโตจะมีหน้าที่จะในการคิดสร้างสรรค์ ว่าจะทำอะไรที่คิดว่าจะต้องขายได้ หรืออธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ ด้วยความที่ถนัดในคนละด้าน มันทำให้ทั้งคนเข้ามาเติมเต็มให้กันจนรวมเป็นหนึ่งและไว้ใจกันเป็นอย่างมาก
“เหตุผลที่ผมได้ทำธุรกิจกับตาลเป็นเพราะว่าผมไว้ใจ ตาลเป็นดุอาอฺที่อัลลอฮฺตอบให้ผม ผมขอเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่ผมไว้ใจ” วีรชน ศรัทธายิ่ง
การทำธุรกิจนั้นเรื่องรายได้-รายจ่ายเป็นเรื่องสำคัญ จึงจำเป็นต้องขยายกิจการเนื้อแท้ ให้โตขึ้นเพื่อมีเงินมาทำงานศาสนา สิ่งที่ทั้งสองทำได้ในตอนนี่ก็คือการเลี้ยงดูพนักงานเพื่อให้มีเงินมีอาชีพ แม้กระทั้งวิกฤติโควิด-19 ส่งผลทำให้ปิดร้าน แต่เนื้อแท้ก็ยังจะเลือกจ่ายเงินให้กับพนักงานแบบฟรี นั่นก็นับว่าเป็นงานศาสนา
จุดประสงค์หลักของทั้งบังโตและบังตาลในการทำธุรกิจนั้นเหมือนกัน คือ “ไม่ได้อยากจะรวย แต่อยากมีเงินเยอะๆเพื่อทำงานศาสนา ทำงานสังคม ทำในสิ่งที่ไม่มีคนทำและได้บุญเยอะ และไปรับรางวัลในโลกหน้าอาคิเราะฮฺ”