ยามเช้าขณะที่แสงสีทองสาดส่องท้องฟ้า อนุสาวรีย์”Amir Temur”ใจกลางเมืองก็ถูกกระทบด้วยแสงสีทองของรุ่งอรุณด้วยเช่นกัน หากดูในมุมมองด้านข้างของช่วงเวลานั้น ก็จะเห็นภาพเสมือนว่า กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เชื้อสายมองโกลกับเติร์กกำลังพุ่งสายตาไปยังเมืองเขากอบกู้ด้วยความภาคภูมิใจ

กล่าวกันว่าหากสหภาพโซเวียตรัสเซีย ไม่ย้ายเมืองหลวงไปที่ Tashkent ที่นี่จะเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ที่สุดของโลกใบนี้ จากอดีตจนถึงปัจจุบันเมืองนี้ถูกกล่าวขานถึงความตื่นตาตื่นใจมาโดยตลอด ทั้งการเป็นต้นกำเนิดของนิยาย 1001 อาหรับราตรี หรือการที่ได้สมญานามว่า เมืองแห่งโดมสีฟ้า

เมืองมรดกโลกแห่งนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของอุซเบกิสถาน เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลาง เคยถูกปกครองโดยอเล็กซานเดอร์มหาราช เติร์ก อาหรับ เปอร์เซีย และมองโกลโดยเจงกิสข่านในปีค.ศ. 1221 และล่มสลายในอีก 100 ปีต่อมา จากนั้นในปี 1336 Amir Temur ได้เข้าทำสงครามและยึดเมืองต่างๆในเอเชียกลางและเลือกที่นี่ เป็นเมืองหลวง

Amir Temur แต่งงานกับหลานเจงกิสข่าน เขาขยายอาณาจักรออกไปอย่างกว้างขวางและฟื้นจักรวรรดิ์มองโกลให้ยิ่งใหญ่เช่นเดิม ในดินแดนตั้งแต่ตุรกี ชีเรีย อิรัก คูเวต อิหร่านอัฟกานิสถาน คาซัคสถาน อาเซอร์ไบจาน จอร์เจีย เติร์กมีกิสถาน คีร์กิสถาน ปากีสถาน และส่วนหนึ่งทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย

ในยุคที่เขา ปกครองโดยมีเมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักร มีความรุ่งเรืองอย่างยิ่งทั้งด้านการก่อสร้าง สถาปัตยกรรม วิชาการสาขาต่างๆ การค้าขายบนเส้นทางสายไหม รวมทั้งทางด้านทหาร มีการเปรียบเปรยกันว่า ด้านการทหารยิ่งใหญ่ไม่แพ้กรุงโรมและกรุงสแตนติโนเปิล และทัดเทียมกรุงปักกิ่งทางด้านวิชาการ

จัตุรัสกลางเมือง Registan Square เป็นการการันตรีถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองนี้ และกล่าวขานกันว่าเป็นศิลปะอิสลามที่งดงามที่สุดในเอเชียกลาง ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสีฟ้า ตัดขอบด้วยสีเหลือง รายล้อมไปด้วยโรงเรียนสอนศาสนา 3 แห่ง


เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงามของAmir Temur แต่น่าเสียดายที่ส่วนหนึงได้ปรักหักพังไปแล้ว รวมถึงอนุสาวรีย์และหลุมฝังศพของ ISLAM KALIMOV ประธานาธิบดีคนแรกซึ่งเป็นที่รักของชาวอุซเบกิสถานหลังได้รับอิสระภาพจากสหภาพโซเวียต