จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่กรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์ ระบุว่ามีชาวมุสลิมได้เข้ามาอาศัยในประเทศไทยหลายกลุ่มด้วยกัน อาทิ เปอร์เซีย อาหรับ จาม มลายู ชวา ปัตตานี อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ แต่ละกลุ่มแม้จะนับถือศาสนาอิสลามเหมือนกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างในเรื่องของวัฒนธรรมการรับประทานอาหารที่ขึ้นอยู่กับสังคม ประเพณี ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และสภาพแวดล้อมอื่นๆ ลองมาดูอาหารที่ berita musim life นำเสนอนะคะ
มุสลิมเปอร์เซียและอาหรับ
อาหารของมุสลิมกลุ่มนี้ มักจะเป็นอาหารที่ประกอบด้วยสารอาหารอย่าง โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ และผักต่างๆ ซึ่งถูกสุขลักษณะอนามัย อาหารมุสลิมกลุ่มนี้ มีหลายชนิดที่คนไทยคุ้นเคย เช่น มัสมั่น แพะอบ เนื้ออบ กะบับ ข้าวหมกสามสี ข้าวมะเขือเปรี้ยว และนิยมใช้เครื่องเทศในการปรุง เช่น กานพลู กระวานเทศ ยี่หร่า อบเชย ลูกจันทร์ หญ้าฝรั่น พริกไทย ขมิ้น
มุสลิมจาม
อาหารที่ขึ้นชื่อของมุสลิมจามคือ แกงส้ม ซึ่งมีส่วนผสมคล้ายคลึงกับแกงของไทย เช่น หอมแดง กระเทียม พริกแห้ง ตะไคร้ ข่า กะปิ ส้มมะขาม ใบมะกรูด มะเขือเทศ พริกชี้ฟ้า โดยวิธีการปรุงก็มีรูปแบบใกล้เคียงกัน
มุสลิมมลายู ชวา ปัตตานี
มุสลิมกลุ่มนี้นิยมทำอาหารจากแกงกะทิ แต่รสชาติไม่เผ็ดจัด อาหารประเภทอื่นๆ ก็นิยมทำเป็นอาหารจานเดียวแต่ละจานมีความเข้มข้นเพื่อสะดวกในการรับประทาน อาทิ รอเยาะ นาซิดาแฆ
กลุ่มมุสลิมอินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ
การปรุงอาหารของมุสลิมกลุ่มนี้มักจะมุ่งเน้นที่เครื่องเทศ เช่น กุรุหม่า (มัสล่า) ดาลจา ส่วนอาหารขึ้นชื่อคือ บาเยีย ซาโมซ่า ซุปเนื้อ ซุปหางวัว
ที่มาของรูป : topicstock.pantip.com/ manager.co.th / image.dek-d.com/ selerasa.com
เรียบเรียงโดย : Berita Muslim