การกำเนิดของ นบีอีซาหรือพระเยซู ที่แตกต่างกันระหว่างศาสนา
ในอัลกุรอ่านมีเรื่องการกำเนิดของอีซาหรือเยซู แต่มีประวัติคนละแบบกับศาสนาคริสต์ ซึ่งเหตุการณ์เกิดของอีซาในศาสนาอิสลามและพระเยซูในศาสนาคริสต์ก็มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่บ้าง
ในคัมภีร์อัลกุรอ่านเล่าไว้ว่า อัลลอฮฺ (ซ.บ.)ทรงเลือกพระนางมัรยัมให้เป็นมารดาของนบีอีซา พระองค์ทรงเป่าวิญญาณจากพระองค์เข้าไปในร่างพระนางของมัรยัมทำให้ท่านตั้งครรภ์ เมื่อใกล้ถึงกำหนดคลอดพระนางมัรยัม จึงหลบผู้คนไปยังที่ห่างไกลและให้กำเนิด นบีอีซา ภายใต้ต้นอินทผลัมกลางทะเลทรายแห่งหนึ่งเพียงลำพัง ทันใดนั้นพระเจ้าก็ทรงบันดาลให้ผลอินทผลัมสุก และบันดาลให้เกิดลำธารขึ้นที่นั่นเพื่อให้ท่านและลูกได้ทานดับกระหาย แล้วพระนางมัรยัมก็พาอีซากลับบ้าน แน่นอนว่าญาติพี่น้องต่างแตกตื่นและตั้งคำถาม พระเจ้าจึงทรงบันดาลให้ทารกอีซาตอบข้อข้องใจของทุกคนว่า
“แท้จริงฉันเป็นบ่าวของอัลลอฮฺ พระองค์ทรงประทานคัมภีร์แก่ฉันและทรงให้ฉันเป็นนบี”
แต่ตามเนื้อความในคัมภีร์ไบเบิล พระเจ้าทรงเลือกพระนางมารีย์ให้เป็นมารดาของพระผู้ไถ่ ทรงบันดาลให้พระนางตั้งครรภ์โดยปราศจากมลทินจากชายใด เมื่อโยเซฟคู่หมั้นของพระนางมารีย์รู้ว่านี่คือพระประสงค์ของพระเจ้าก็ยอมรับและดูแลพระนางอย่างดี ระหว่างที่ทั้งสองเดินทางไปขึ้นทะเบียนราษฎรตามพระราชองการของจักรพรรดิออกุสตุส ได้แวะค้างแรมที่เมืองเบธเลเฮม แต่คืนนั้นที่พักทุกแห่งเต็มหมด ทั้งสองจึงจำต้องพักในคอกสัตว์ของโรงแรมแห่งหนึ่ง คืนนั้นเองพระนางมารีย์ได้ให้กำเนิดพระเยซู การกำเนิดของพระเยซูเป็นการแสดงถึงความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์ ที่ทรงกรุณาส่งพระบุตรของพระองค์มาบังเกิดและให้พระบุตรรับทรมานแทนเหล่ามนุษยชาติเพื่อปลดบาปให้แก่มวลมนุษย์
ในศาสนาคริสต์ พระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้าที่ทรงลงมาเป็นผู้ไถ่บาปให้แก่มนุษย์ และทรงเป็นพระเจ้าด้วย เพราะพระองค์ทรงเป็นพระบุคคลหนึ่งในพระตรีเอกภาพ (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระเยซูถูกทรมานและถูกตรึงกางเขนจนสิ้นชีวิต การพลีชีพของพระองค์คือการไถ่บาปให้แก่มนุษยชาติ
แต่ในศาสนาอิสลาม อีซาเป็นเพียงมนุษย์ ที่ถูกเลือกให้เป็นนบีหรือศาสนทูตที่คอยชี้นำผู้คนไปในทางที่ถูกต้อง มีฐานะเทียบเท่าศาสดามุฮัมมัดและศาสดาท่าน และที่น่าสนใจกว่านั้นคือคัมภีร์อัลกุรอ่าน กล่าวว่า นบีอีซาไม่ได้ตาย แต่พระเจ้ารับท่านไปอยู่กับพระองค์แล้วทรงบันดาลให้มีคนหน้าคล้ายท่านถูกจับไปตรึงกางเขนแทน
ถึงแม้ฐานะและเรื่องราวของนบีอีซาของมุสลิมหรือพระเยซูของชาวคริสต์จะต่างกันไปบ้าง แต่ศาสนาทั้งสองเชื่อตรงกันว่า นบีอีซาหรือพระเยซูจะกลับมาอีกครั้งในวันสิ้นโลก แต่ความแตกต่างในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญเท่ากับการที่ทั้งศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามต่างก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือสอนให้ผู้คนยึดมั่นในพระเจ้าและหมั่นทำความดี
ขอบคุณข้อมูลจาก https://readthecloud.co/isa-jesus-in-islam/