การดำรงความเป็นธรรม เป็นงานหลักที่ผู้นำต้องยืนหยัดด้วยความอดทนอดกลั้น เพราะอาจต้องเผชิญกับการคุกคามหลากหลายรูปแบบ แต่ผู้ดำรงความยุติธรรม ต้องระลึกอยู่เสมอว่า ทุกวินาทีของความเหนื่อยยากล้วนมีรางวัลตอบแทนอันยิ่งใหญ่ เกินจินตนาการของมนุษย์จะหยั่งถึง ดั่งคำสอนของศาสดาที่ว่า
“แท้จริงแล้ว มนุษย์ผู้เป็นที่รักยิ่งของอัลลอฮฺ และจะได้เข้าเฝ้าใกล้ชิดพระองค์มากที่สุดในวันแห่งการพิพากษาคือ ผู้นำที่ดำรงความยุติธรรม ส่วนมนุษย์ผู้เป็นที่รักยิ่งของพระองค์อัลลอฮฺ และจะถูกอัปเปหิออกไปไกลจากพระองค์มากที่สุด คือ ผู้นำที่อธรรม”
ความยุติธรรมนับเป็นบ่อเกิดของความสงบในสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ใกล้กับสภาวะตักวา(ความยำเกรงในอัลลอฮฺ) มากที่สุดและความยุติธรรมนี้ต้องมีให้แก่ทั้งมิตรและศัตรู ดั่งที่อัลลอฮฺทรงบัญชาไว้ในซูเราะห์อัลมาอิดะห์อายะห์ที่ 8 ว่า
ขณะที่ศาสดามุฮํมมัด(ซ.ล.) ก็ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชาติก่อนๆนี้ มักล่มสลายไปด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม เมื่อผู้มีอำนาจหรือทรงอิทธิพลทำผิด ผู้ปกครองก็พยายามช่วยเหลือให้พ้นโทษ แต่หากคนจนต่ำต้อยทำผิดก็โดนลงโทษโดยมิมีข้อยกเว้น ถ้อยคำของท่านที่ยังดังกึกก้องมาจนถึงทุกวันนี้คือ “แม้หากฟาติมะห์ บุตรสาวของมุฮํมมัดขโมยของ ฉันจะเป็นคนตัดมือของนางเอง”
“อย่าได้ปล่อยให้ความชิงชังที่มีต่อคนบางกลุ่ม มาทำให้พวกเจ้าละเว้นความยุติธรรม จงดำรงความยุติธรรมไว้เถิด นั่นคือสิ่งที่ใกล้ชิดกับความตักวามากที่สุด”