มนุษย์ได้รับประทานอาหารอย่างเต็มที่ตลอดทั้งปี
โดยมิได้คำนึงระบบการย่อยอาหารพิการเกิดเป็นแผลหรือการทำงานของตับไร้สมรรถภาพ
หรือมีกรดมากในกระเพาะอาหาร อัลลอฮฺ (ซ.บ.)
ได้ทรงประสงค์ที่จะใช้ให้มนุษย์ถือศีลอดเป็นเวลา 1 เดือนของทุกปี
ได้ก่อให้เกิดผลประโยชน์ในการทำให้ระบบการย่อยอาหารซึ่งทำงานหนักมาตลอดทั้งปีได้พักผ่อน
ซึ่งจะทำให้มันมีความแข็งแรงในการที่จะปฏิบัติงานในโอกาสต่อไป
การถือศีลอดจะมีส่วนในการรักษาโรคต่างๆ
มากมาย เฉพาะอย่างยิ่งความปั่นป่วนในกระเพาะอาหารหรือการอักเสบ
หรือการอ่อนเพลียของตับหรือโรคเบาหวาน
การถือศีลอดจะมีส่วนช่วยในการรักษาโรคเรื้อรังต่างๆ
เช่น การติดกาแฟ ชา บุหรี่ ถ้าหากว่าเขามีความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวในการที่จะเลิกสิ่งเสพติดต่างๆ
แล้ว แน่นอนที่สุดการถือศีลอดจะมีส่วนช่วยให้เขาเลิกสิ่งเสพติดได้อย่างมากทีเดียว
การถือศีลอด
ตามที่บัญญัติไว้จะเป็นกรรักษาโรคอ้วนแบบธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในผู้ชายหรือผู้หญิง
เพราะว่าการถือศีลอดบังคับมิให้เรารับประทานคาร์โบไฮเดรตในตอนกลางวัน
การถือศีลอดจะมีส่วนช่วยรักษาโรคเบาหวานหรือโรคฮอร์โมนไม่ปกติ หรือโรคอื่นๆ
ที่ร้ายแรง
ข้อแนะนำในการละศีลอด
สำหรับผู้ถือศีลอด
ในการแก้ศีลอด
ควรรับประทานอินทผลัมหรือน้ำก่อนสิ่งอื่นใด เพื่อปฏิบัติตามซุนนะฮ์ของท่านร่อซูล
(ซ.ล.) เพื่อที่จะได้รับประโยชน์ทางด้านความดีงามและสุขภาพจากสิ่งทั้งสอง
และเป็นการเตือนกระเพาะอาหารในการที่จะรับอาหาร แล้วไปละหมาดมักริบ
(อย่ารับประทานอาหารหนักในทันที) เพราะจะทำให้กระเพาะอาการเกิดความกระชั้น
รับประทานอาหารแต่เพียงพออิ่ม
เพื่อเราจะได้ไม่พลาดโอกาสที่จะได้รับประโยชน์ในทางศาสนาและทางสุขภาพ
(ซึ่งข้อคิดในการถือศีลอดคือมีความรู้สึกหิวโหย และไม่รับประทานอาหารจนแน่นท้อง
และมอบอาหารให้แก่ผู้ที่ยากจนขัดสน)
ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ไม่ต้องถือศีลอด
1.
ผู้ที่แก่ชรา
ซึ่งไม่มีความสามารถจะถือศีลอดได้และต้องการที่จะบำรุงร่างกายให้มีความแข็งแรง
2.
ผู้ที่เจ็บป่วยซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการควบคุมของนายแพทย์ตลอดเวลา
3.
ผู้ที่ตั้งครรภ์ และผู้ที่ให้นมบุตร (หากการถือศีลอดจะก่อให้เกิดอันตรายแก่มารดาหรือทารก)
สิ่งที่ใหญ่ที่สุดได้แก่
คำพูดของท่านร่อซูล (ซ.ล.) เกี่ยวกับเดือนรอมฎอนคือ
“ถ้าหากประชาชนทั้งหลายรู้ถึงความดีงาม และความจำเริญในเดือนรอมฎอนแล้ว
เขาจะต้องหวังที่จะให้เดือนรอมฎอนมีอยู่ตลอดปี”
บทความจากหนังสือ มิมบัร อัลอิสลาม (เชค อัซฮัร)
ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต